
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 6,275 ราย ซึ่งครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศ พบว่า
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ระดับ 52.0 ยังคงอยู่ในช่วงเชื่อมั่นติดต่อกัน
เป็นเดือนที่ 6 และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกของประชาชนต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะความเชื่อมั่นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ยังคงอยู่ในช่วงเชื่อมั่นหรือมีค่ามากกว่าระดับ 50 โดยอยู่ที่ระดับ 52.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 51.5 ในเดือนก่อน

สรุปข่าว
โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนียังคงอยู่ในช่วงเชื่อมั่น เนื่องจาก 1.การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน อาทิ มาตรการภาษี Easy E-Receipt 2.0 และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ (เงินดิจิทัล 10,000 บาท) เป็นต้น ซึ่งช่วยลดภาระค่าครองชีพและส่งเสริมภาคธุรกิจ
2.ราคาสินค้าเกษตรสำคัญปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันและยางพารา รวมถึงพืชผลการเกษตรหลายชนิดทยอยเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
3.การเร่งแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเข้มงวด ช่วยลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจและสร้างความมั่นใจในการทำธุรกรรมทางการเงินของประชาชน และ 4.การส่งออกไทยยังขยายตัวได้ดีในตลาดส่งออกสำคัญ
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค พบว่า ด้านเศรษฐกิจไทยส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคมากที่สุด
คิดเป็นร้อยละ 50.15
รองลงมาคือ มาตรการของภาครัฐ คิดเป็นร้อยละ 14.82 ราคาสินค้าเกษตร คิดเป็นร้อยละ 7.76 เศรษฐกิจโลก คิดเป็นร้อยละ 7.33 สังคม/ความมั่นคง คิดเป็นร้อยละ 7.22
การเมือง คิดเป็นร้อยละ 3.90 ผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง คิดเป็นร้อยละ 3.86 ภัยพิบัติ/โรคระบาด คิดเป็นร้อยละ 2.79 และอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 2.17 ตามลำดับ