เปิดข้อมูล สิ่งที่ควรรู้เมื่อขอกู้เงิน ทำไมถึงขอสินเชื่อไม่ผ่าน?

เปิดข้อมูล สิ่งที่ควรรู้เมื่อขอกู้เงิน ทำไมถึงขอสินเชื่อไม่ผ่าน?

สรุปข่าว

ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน เปิดข้อมูล สิ่งที่ควรรู้เมื่อขอกู้เงิน ทำไมถึงขอสินเชื่อไม่ผ่าน?

ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดข้อมูลเกี่ยวกับ การขอสินเชื่อไม่ผ่าน โดยระบุว่า ทำไมถึงขอสินเชื่อไม่ผ่าน... ก่อนที่ผู้ให้กู้จะปล่อยเงินสินเชื่อให้เรา มีปัจจัยหลากหลายที่ต้องดู

ทั้งความน่าเชื่อถือของแหล่งรายได้ วงเงินที่ขอกู้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา หรืออาจมาจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น อายุงานน้อยกว่าหลักเกณฑ์ที่ผู้ให้กู้ตั้งไว้

ข้อมูลเพิ่มเติมจากศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) สิ่งที่ควรรู้เมื่อขอกู้เงิน

สิ่งที่ควรรู้เมื่อขอกู้เงิน มีอะไรบ้าง

หากมีความจำเป็นต้องขอสินเชื่อ สิ่งสำคัญอันดับแรกที่เราต้องพิจารณาคือความสามารถในการชำระหนี้ของตนเอง จากนั้นจึงเลือกประเภทของสินเชื่อให้เหมาะสมกับความต้องการ แล้วทำความเข้าใจในกระบวนการและเงื่อนไขในการขอสินเชื่อ เพื่อให้เราสามารถเตรียมตัวให้พร้อมและได้รับอนุมัติสินเชื่อตามที่ยื่นขอ

เอกสารประจำตัว

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ

สำเนาทะเบียนบ้าน

สำเนาทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า หรือใบมรณบัตร

สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ สกุล (ถ้ามี)

กรณีนิติบุคคล อาจใช้สำเนาทะเบียนการค้า หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล

เอกสารเกี่ยวกับรายได้ เช่น 

ผู้มีรายได้ประจำ

ใบรับรองเงินเดือน หรือหลักฐานการรับ/จ่ายเงินเดือนจากนายจ้าง

สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร

ผู้มีอาชีพอิสระ

กรณีเป็นสัญญาจ้าง อาจใช้สำเนาสัญญาว่าจ้างและหลักฐานการจ่ายเงินค่าจ้าง

กรณีเป็นแพทย์ ทนายความ ผู้สอบบัญชี วิศวกร สถาปนิก ควรแสดงใบอนุญาตประกอบวิชาชีพด้วย

บัญชีเงินฝาก พร้อมใบแจ้งยอดบัญชี หรือสเตทเมนต์ (statement) ของบัญชีเงินฝากของตนเองหรือของกิจการย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน

หลักฐานรายได้หรือทรัพย์สินอื่นๆ เช่น ใบหุ้น พันธบัตรรัฐบาล บัญชีเงินฝากธนาคาร

นิติบุคคล

สำเนางบการเงินปีล่าสุด และย้อนหลังไม่น้อยกว่า 3 ปี

สำเนาแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี

สำเนาเอกสารสิทธิในทรัพย์สินที่เสนอเป็นหลักประกัน

แผนที่แสดงที่ตั้งสถานประกอบการ

เอกสารอื่น ๆ  เช่น 

สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสัญญามัดจำ

สำเนาโฉนดที่ดิน หรือสำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์

สัญญากู้เงิน และสัญญาจำนองจากสถาบันการเงินเดิม

ในกรณีมีผู้กู้ร่วม จะต้องมีหลักฐานประจำตัว และหลักฐานรายได้ของผู้กู้ร่วม

ในกรณีที่ขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจ สิ่งที่จำเป็นคือแผนธุรกิจ เช่น แผนธุรกิจของ SMEs แผนโครงการที่ต้องการดำเนินการ

ทั้งนี้ เอกสารในการยื่นขอสินเชื่อแต่ละประเภทอาจแตกต่างกันออกไป ดังนั้น เราควรศึกษาหรือสอบถามรายละเอียดจากผู้ให้สินเชื่ออีกครั้ง นอกจากนี้ ในการขอสินเชื่ออาจมีแบบฟอร์มอื่น ๆ ที่แนบมา ซึ่งเราควรพิจารณาก่อนกรอกข้อมูลและลงนาม เช่น

แบบคำยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เพื่อขอตรวจสอบประวัติเครดิตจาก เครดิตบูโร และนำมาวิเคราะห์การให้วงเงินสินเชื่อที่เหมาะสม

แบบคำขออนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของผู้ให้สินเชื่อติดต่อ แนะนำสินค้าอื่น หรือให้ข้อมูลแก่ผู้อื่น ซึ่งเรามีสิทธิเลือกที่จะลงนามหรือไม่ก็ได้

ใบคำขอประเภทอื่น เช่น คำขอมีบัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล หรือบริการแจ้งเตือน SMS

การค้ำประกันและหลักประกัน

การค้ำประกันและหลักประกันเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผู้ให้สินเชื่ออาจใช้ประกอบการพิจารณาให้สินเชื่อ เพื่อให้มั่นใจว่าหากผู้ขอสินเชื่อชำระหนี้ไม่ได้ สถาบันการเงินยังมีทางที่จะได้เงินคืน เช่น สามารถยึดหลักประกันมาขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ที่ค้างอยู่ หรือให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้แทน โดยหลักทรัพย์ที่นิยมนำมาเป็นหลักประกัน เช่น เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงิน หุ้นกู้ และอสังหาริมทรัพย์ ในกรณีสินเชื่อที่มีบุคคลค้ำประกัน สถาบันการเงินก็จะพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ค้ำประกันประกอบด้วย

สิ่งที่ควรทำเมื่อเป็นผู้ค้ำประกัน

อย่าลืมว่าผู้ค้ำประกันไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบที่จะเกิดตามมาได้หากลูกหนี้ผิดสัญญา ดังนั้น หากต้องเป็นผู้ค้ำประกันให้ผู้อื่นควรปฏิบัติดังนี้ 

1. อ่านเงื่อนไขในการค้ำประกันให้ละเอียด 

2. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขอบเขตความรับผิดชอบในฐานะผู้ค้ำประกัน 

3. ตรวจสอบความถูกต้องของวงเงินและประเภทของสินเชื่อที่ค้ำประกันที่ระบุในสัญญา ซึ่งแบงก์ชาติกำหนดว่าจะต้องระบุวงเงินของเงินต้นที่ค้ำประกันในสัญญาให้ชัดเจน และห้ามทำข้อตกลงว่าให้ผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันแบบไม่จำกัดจำนวน 

4. หากสงสัยอะไรรีบถามก่อนลงชื่อในสัญญา

เกณฑ์ที่สถาบันการเงินใช้พิจารณาสินเชื่อ

ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจะขึ้นอยู่กับนโยบายและหลักเกณฑ์ของผู้ให้สินเชื่อแต่ละราย 

โดยทั่วไปแล้วมีปัจจัยหลัก ๆ ที่ใช้ประกอบการพิจารณา คือ 

- นโยบายสินเชื่อของผู้ให้สินเชื่อ เช่น ผู้ให้สินเชื่อบางรายอาจกำหนดว่าผู้ยื่นขอสินเชื่อต้องไม่มีประวัติการค้างชำระในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง หรืองดให้สินเชื่อแก่ลูกค้าใหม่ในกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง

- วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ เช่น ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ หรือลงทุนขยายโรงงาน ซึ่งจะเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคต

- คุณลักษณะและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ 

ทำไมขอสินเชื่อไม่ผ่าน ทั้งที่ให้ข้อมูลครบถ้วนและไม่มีประวัติหนี้เสีย

การขอสินเชื่อไม่ผ่านอาจมาจากเหตุผลหลายประการ เช่น

1. นโยบายการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจ แต่ละแห่งที่แตกต่างกัน

2. ภาระหนี้ที่มีอยู่ และความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ หากมีภาระหนี้สินอยู่มาก หรือมีรายได้ต่ำก็อาจมีโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้มาก ซึ่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ

3. ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาของลูกหนี้

4. หลักประกันความเสี่ยงของผู้ขอสินเชื่อ เช่น ผู้ค้ำประกันมีความสามารถในการชำระหนี้ต่ำ หรือหลักทรัพย์ค้ำประกันไม่เพียงพอ

แต่ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุอะไรก็ตาม ถ้าผู้ขอสินเชื่อต้องการขอทราบเหตุผลของการไม่ปล่อยสินเชื่อ แบงก์ชาติกำหนดให้สถาบันการเงินชี้แจงเหตุผลให้ผู้ขอสินเชื่อทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร 

เปิดข้อมูล สิ่งที่ควรรู้เมื่อขอกู้เงิน ทำไมถึงขอสินเชื่อไม่ผ่าน?



ข้อมูลจาก ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน

ภาพจาก ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน / TNN ONLINE

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

แท็กบทความ