ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของสมรภูมิการเมือง “โต๊ะอาหาร” กลางกรุงเทพฯ ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น “โต๊ะวางหมาก” เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเปิดฉากในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จัดพบปะระดับผู้นำกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ในบรรยากาศส่วนตัว ณ โรงแรมใจกลางเมือง โดยเป็นการหารือกลุ่มเล็ก เจาะลึกเฉพาะระดับหัวหน้าพรรคและผู้มีบทบาทด้านยุทธศาสตร์ พร้อมทั้งมีการบันทึกภาพและคลิปวิดีโอส่งต่อสื่ออย่างโปร่งใส
เป้าหมายชัดเจน – ไม่ใช่การต่อรองอำนาจ หรือเขย่าเก้าอี้ใคร แต่เป็นการเตรียมความพร้อมด้านข้อมูล เพื่อตั้งรับต่อทุกคำถามที่ฝ่ายค้านอาจหยิบยกขึ้นมาในเวทีซักฟอก โดยเฉพาะเมื่อนายกรัฐมนตรีหญิง ต้องเผชิญไฟการเมืองแบบตัวต่อตัวเป็นครั้งแรก
“โต๊ะอาหารค่ำ” กลายเป็นสัญลักษณ์ของความพร้อมและความแน่นแฟ้น ไม่ใช่การปิดห้องแบ่งเค้ก
การหารือครั้งนี้สะท้อนชัดถึงความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งต่างก็ส่งสัญญาณตรงกันว่า จะเดินหน้าไปพร้อมกัน ไม่ปล่อยให้ศึกซักฟอกกลายเป็นเวทีสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างพรรค
สรุปข่าว
สิ่งที่น่าสนใจ คือ การจัดวางทีมองครักษ์พิทักษ์ผู้นำ ที่มีทั้งมือเก๋าอย่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายสุทิน คลังแสง และนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ เข้ามาขับเคลื่อน “งานเบื้องหลัง” เพื่อเตรียมข้อมูล สร้างกรอบตอบโต้ และช่วยบริหารจังหวะการอภิปรายให้เป็นไปอย่างมีแบบแผน
แม้เวทีนี้ฝ่ายค้านจะเน้นเจาะจงเพียงคนเดียว แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ประมาท พร้อมรับมือทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลงานหรือการพาดพิงนอกกรอบ
“นี่ไม่ใช่แค่การตอบโต้ แต่เป็นการใช้เวทีซักฟอก เป็นเวทีสื่อสารกับประชาชน”
ศึกอภิปราย 24–25 มี.ค. และลงมติ 26 มี.ค. ถือเป็นโอกาสสำคัญ ที่จะสะท้อนภาพความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี และเสริมแรงศรัทธาจากประชาชนในช่วงหัวใจของวาระรัฐบาลชุดนี้
แม้เสียงในสภาจะชี้ว่า รัฐบาลมีความได้เปรียบ แต่ก็ไม่มีใครประมาท เพราะจังหวะการเมืองมักเปลี่ยนได้เสมอ ที่สำคัญกว่านั้น คือ “ความเชื่อมั่น” จากประชาชนภายนอกสภา ที่จะเป็นตัวชี้วัดในระยะยาว
รัฐบาลเลือกจะไม่หลีกเลี่ยงเวทีตรวจสอบ แต่เดินหน้ารับคำท้าด้วยความมั่นใจ และวางเกมรัดกุมในทุกรายละเอียด
“เพราะเป้าหมายไม่ใช่แค่ผ่านศึกนี้ไป แต่ต้องชนะใจคนดูไปพร้อมกัน”
ในเมื่อฝ่ายค้านยังไม่เผยไพ่ทั้งหมด รัฐบาลก็ต้องเตรียมหมากทุกตัวให้พร้อม และดูเหมือนว่าการเริ่มต้นที่โต๊ะดินเนอร์ครั้งนี้ ก็ส่งสัญญาณเชิงบวกได้ไม่น้อย ว่า “เราพร้อม – และเราจะไปด้วยกัน”
ยศไกร รัตนบรรเทิง
เบน