
ทรัมป์ระบุว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน พร้อมเจรจาจบสงครามกับรัสเซีย และลงนามข้อตกลงแร่หายากกับสหรัฐฯ
ทรัมป์กล่าวปกป้องความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากสงครามการค้าและนโยบายปราบคนต่างด้าวของเขา โดยทรัมป์แถลง 1 วันหลังจากเพิ่งเปิดศึกสงครามการค้ากับจีน แคนาดาและเม็กซิโก โดยเริ่มเก็บภาษีศุลากรในอัตราสูงกับ 3 ประเทศดังกล่าว และอีกหลายประเด็น
แต่ระหว่างการสุนทรพจน์ เกิดความโกลาหลขึ้นมากมาย อาทิ
เมลานี สแตนส์บูรี สมาชิกรัฐสภารัฐนิวเม็กซิโก พรรคเดโมแครต ชูป้ายขณะโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเดินเข้าสภาคองเกรสว่า “นี่มันไม่ปกติ”

สรุปข่าว
ก่อนที่ มาร์จอรี กรีน ผู้สนับสนุนทรัมป์แบบสุดโต่ง จะดึงป้ายนั้นออก โดยตัวเธอเอง สวมหมวกเขียนคำว่า “ทรัมป์ถูกทุกอย่าง” ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดข้อบังคับห้ามสวมหมวกหรือเครื่องศีรษะ ที่ใช้มานานเกือบ 2 ศตวรรษ
เมื่อทรัมป์เดินถึงโพเดียม นักการเมืองฝั่งรีพับลิกันลุกขึ้นตะโกนก้องว่า “USA USA” ในขณะที่ฝั่งเดโมแครตนิ่งเงียบ
ทรัมป์พูดไปได้ไม่นาน อัล กรีน สมาชิกรัฐสภาพรรคเดโมแครต ตะโกนว่า “คุณไม่มีอำนาจทำแบบนี้” และเขาปฏิเสธไม่ยอมนั่งลง จึงถูกพาตัวออกจากที่ประชุมสภา
ตอนที่ทรัมป์พูดว่า โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ มีเสียงผิวปากดังมาจากพรรคเดโมแครต ซึ่งบางคนประณามคำกล่าวของทรัมป์ว่า “โกหก”
เครื่องแต่งกายของสมาชิกรัฐสภาหลายคน แสดงออกในเชิงสัญลักษณ์หลายอย่าง ผู้หญิงหลายคนสวมชุดสีชมพู เพื่อต่อต้านนโยบายเชิงเหยียดสตรีของทรัมป์
หลายคนสวมผ้าพันคอ เน็คไทลายทาง เป็นสีน้ำเงินและเหลือง เหมือนธงชาติยูเครน เพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครน ที่เหมือนถูกทรัมป์ทรยศ
อันที่จริง สมาชิกรัฐสภา ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสมาชิก ทั้งฟากรีพับลิกันและเดโมแครต บางจังหวัดได้ลุกขึ้นแสดงการสนับสนุนยูเครนด้วย
อีลอน มัสก์ ที่คุมหน่วยงานประสิทธิภาพรัฐบาล ที่เข้ามาตัดเงินสนับสนุน และลดจำนวนข้าราชการมหาศาล ได้รับการชื่นชมจากทรัมป์ และเสียงปรบมือระดับหนึ่ง
แต่ด้านนอกอาคารรัฐสภา ผู้ประท้วงนับสิบคนได้ออกมาประท้วง พร้อมชูป้ายต่อว่ามัสก์ว่าเป็น “ทรราช” และ “”มัสก์ต้องออกไป
ท้ายสุด สุนทรพจน์ของทรัมป์ครั้งแรกในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ยังเป็นสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกา อยู่ที่ 1 ชั่วโมง 40 นาที ทำลายสถิติของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เมื่อปี 2000

ทศพล ชัยสัมฤทธิ์ผล