
GPS กับการไขปริศนา 'คดีแตงโม' เมื่อดาวเทียมเป็นพยานปากเอก
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำ ระบบ GPS (Global Positioning System) กำลังกลายเป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายปริศนาการเสียชีวิตของ "น้องแตงโม" นิดา พัชรวีระพงษ์ โดยเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้นำคณะสื่อมวลชนล่องเรือตรวจสอบเส้นทางในแม่น้ำเจ้าพระยา

สรุปข่าว
การตรวจสอบครั้งนี้ใช้เรือสปีดโบ๊ททั้งหมด 5 ลำ มุ่งเน้นการเก็บข้อมูลใน 3 จุดสำคัญ จุดแรกคือบริเวณท่าทรายใกล้บริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด ที่มีการใช้โดรนบินสำรวจเหนือลำน้ำเพื่อเก็บภาพมุมสูง จุดที่สองคือกลางแม่น้ำบริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ตรงข้ามอาคารรัฐสภา และจุดที่สามคือท่าเรือวัดค้างคาว ที่มีการใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่งตรวจสอบภูมิประเทศโดยรอบ
เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่งมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท เป็นอาวุธสำคัญในการรวบรวมข้อมูล สามารถสร้างภาพจำลอง 3 มิติของสถานที่เกิดเหตุ และทำงานร่วมกับระบบ GPS ผ่านสัญญาณดาวเทียม
นายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ (ดีเอสไอ) อธิบายว่า เครื่องมือนี้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจาก GPS เรือ โทรศัพท์มือถือ และภาพถ่ายดาวเทียมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างภาพจำลองเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม การสืบสวนยังพบอุปสรรคสำคัญคือกระแสน้ำที่ไหลแรง ส่งผลต่อความแม่นยำของการสแกน เนื่องจากเครื่องมือต้องการสภาพแวดล้อมที่นิ่งเพื่อการประมวลผลที่แม่นยำ ทีมสืบสวนจึงต้องใช้เวลาในการเก็บข้อมูลอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะในจุดสำคัญทั้งสามแห่ง
ภายหลังจากการเก็บรวบรวมข้อมูล DSI ได้ระบุว่าคดีมีความคืบหน้าเกือบ 100% คาดว่าอีก 2 สัปดาห์ จะสามารถสรุปผลได้ โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และคำให้การของพยานเพื่อสร้างความแม่นยำในการสืบสวน
-------------------
ระบบ GPS จึงไม่เพียงเป็นเครื่องมือในการติดตามเส้นทาง แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยไขปริศนาการเสียชีวิตครั้งนี้ โดยการบูรณาการข้อมูลทั้งจาก GPS เรือ สัญญาณโทรศัพท์ ภาพถ่ายที่พบในโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต ภาพจากการสแกนด้วยเลเซอร์ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความกระจ่างและความยุติธรรมกับทุกฝ่าย
ที่มาข้อมูล : TNN เรียบเรียง
ที่มารูปภาพ : TNN