
ภายในงานแสดง Air Show เนื่องในโอกาสครบรอบ 88 ปี กองทัพอากาศไทย ที่เพิ่งจบลงอย่างยิ่งใหญ่และประทับใจคนไทย ไฮไลท์หนึ่งของงานคงอยู่ที่ฝูงบิน U.S. Air Force F-35A Demonstration Team ซึ่งได้เดินทางมาแสดงการบินของเครื่อง F-35A เหนือน่านฟ้าดอนเมือง ในช่วงหนึ่งของการแสดงนักบินได้แสดงการบินด้วยความเร็วสูงจนเกิด Vapor Con ละอองอากาศรอบเครื่อง F-35A จนหลายคนสงสัยว่าละอองอากาศดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่าง
โดยพล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ได้เปิดเผยว่าละอองอากาศรอบเครื่องบิน หรือที่เรียกว่า Vapor Cone หรือ Prandtl-Glauert Singularity เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินเคลื่อนที่เข้าใกล้ความเร็วเสียง ความเร็วดังกล่าวส่งผลให้ไอน้ำในอากาศรอบตัวเครื่องบินเกิดการควบแน่นและก่อตัวเป็นกลุ่มหมอกสีขาว มักเกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในบริเวณปีกและส่วนท้ายของเครื่องบิน ทำให้อุณหภูมิลดลงและไอน้ำในอากาศเปลี่ยนสถานะจากไอเป็นของเหลวในรูปแบบของละอองหมอกชั่วคราว

สรุปข่าว
ปรากฏการณ์ Vapor Cone มักปรากฏให้เห็นเมื่อเครื่องบินมีความเร็วอยู่ในช่วง Mach 0.95 - Mach 1.05 ซึ่งเป็นช่วงที่ความดันอากาศรอบตัวเครื่องบินลดลงอย่างฉับพลัน สำหรับความเร็วเสียงที่ระดับน้ำทะเลนั้นอยู่ที่ 1,235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระดับความเร็วนี้อาจเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยของอุณหภูมิและความกดอากาศในแต่ละระดับความสูงของชั้นบรรยากาศ เครื่องบินที่มักสร้างปรากฏการณ์นี้ได้แก่ เครื่องบินรบความเร็วสูง เช่น F/A-18 Hornet, F-35, F-22 Raptor รวมถึงเครื่องบินโดยสารที่ทำความเร็วใกล้เสียงอย่างเครื่องบิน Concorde ซึ่งปัจจุบันเลิกบินไปแล้ว รวมไปถึงเครื่องบินทางทหารที่บินด้วยความเร็วในสภาพบรรยากาศที่มีความชื้นสูง
แม้ว่า Vapor Cone จะเป็นปรากฏการณ์ที่น่าตื่นตา แต่มันไม่มีอันตรายต่อเครื่องบินหรือผู้โดยสาร เนื่องจากเป็นเพียงไอน้ำที่เกิดจากการควบแน่น ไม่ได้สร้างแรงกระแทกหรือความเสียหายต่อโครงสร้างของเครื่องบินแต่อย่างใด นอกจากนี้ ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ขณะที่เครื่องบินเข้าใกล้ความเร็วเสียง และไม่มีผลต่อแรงดันอากาศภายในห้องโดยสาร ซึ่งถูกควบคุมโดยระบบภายในของเครื่องบินให้คงที่อยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ที่อาจเป็นอันตรายและเกี่ยวข้องกับการบินที่ความเร็วเหนือเสียง คือ โซนิคบูม (Sonic Boom) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินทะลุผ่านกำแพงเสียง (Mach 1+) ทำให้เกิด คลื่นกระแทก (Shockwave) ซึ่งสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนและเสียงที่ดังมาก ผลกระทบของโซนิคบูมอาจทำให้ หน้าต่างอาคารหรือกระจกแตกร้าว โดยเฉพาะเมื่อเกิดใกล้พื้นดิน นอกจากนี้ยังอาจสร้างความรำคาญให้กับประชาชนและรบกวนสัตว์ป่า รวมถึงมีโอกาสส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของเครื่องบินหากไม่ได้รับการออกแบบให้รองรับแรงกระแทกที่เกิดขึ้น
ที่มาข้อมูล : พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ
ที่มารูปภาพ : U.S. Air Force F-35A Demonstration Team

พีรพรรธน์ เชื้อจีน