
บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพจากรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จในการดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อสร้าง “หนูขนยาว” ที่มีหน้าตาเหมือนหนูธรรมดา ๆ แต่มีขนที่ยาวหนา เพื่อให้สามารถทนกับความหนาวได้ โดยหวังนำข้อมูลที่ได้จากการวิจัยไปใช้ในการคืนชีพให้กับ “แมมมอธ” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลช้าง ที่สูญพันธุ์ไปเมื่อราว 4,000 ปีก่อน

สรุปข่าว
ผลงานวิจัยนี้เป็นของบริษัท โคลอสซัล ไบโอไซแอนส์ (Colossal Biosciences) โดย เบน แลมม์ (Ben Lamm) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทกล่าวว่า พวกเขาได้ดัดแปลงพันธุกรรมหนู ให้เลียนแบบลักษณะยีนแมมมอธที่ค้นพบ โดยได้หนูขนยาวมาทั้งหมด 38 ตัว ทุกตัวมีสุขภาพดี และไม่มีผลข้างเคียง หรือผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ใด ๆ นอกเหนือไปจากความ “น่ารัก”
ส่วนขั้นตอนต่อไป บริษัทกล่าวว่าอาจใช้เทคนิคพันธุวิศวกรรมแบบเดียวกันมาใช้กับช้างเอเชีย ซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดที่สุดของแมมมอธขนยาว ด้วยการระบุและนำยีนแมมมอธที่สำคัญกลับมาใช้ใหม่ โดยหวังว่าจะสามารถสร้างช้างสายพันธุ์ที่ทนต่อสภาวะหนาวเย็นของอาร์กติกได้ คล้ายกับแมมมอธ
ส่วนคำถามที่ว่าทำไมบริษัทถึงสนใจที่จะคืนชีพ “แมมมอธ” อีกครั้ง เพราะบริษัทมองว่าในตอนนี้ โลกของเรากำลังจะสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพมากถึงร้อยละ 50 นับตั้งแต่ตอนนี้จนถึงปี 2050 ดังนั้นการที่เรามีชุดเครื่องมือเพื่อช่วยฟื้นคืนชีพให้สายพันธุ์ต่าง ๆ อาจจะช่วยให้เราสามารถรักษาความหลากหลายของระบบนิเวศ และป้องกันการสูญพันธ์ุของสัตว์ได้
การทดลองนี้ ยังนับเป็นการพิสูจน์แนวคิดที่แสดงให้เห็นว่านักวิจัยจะสามารถนำลักษณะสำคัญของสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว มาใช้กับสายพันธุ์สัตว์สมัยใหม่ได้อย่างไร โดยเป้าหมายต่อไปของทางบริษัท นอกจากการคืนชีพแมมมอธแล้ว คือการคืนชีพเสือแทสมาเนีย และนกโดโด ที่สูญพันธ์ุไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังกังขาเกี่ยวกับแนวคิดเรื่อง "การคืนชีพสัตว์สูญพันธุ์" ด้วยวิธีการดังกล่าว โดยพวกเขาแย้งว่าถึงแม้การดัดแปลงพันธุกรรม อาจสร้างสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้สัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วกลับคืนมาอย่างแท้จริง และอาจจะต้องมีการทดสอบว่าหนูขนยาวเหล่านี้ แค่มีขนที่ยาว หรือทนความหนาวได้แบบช้างแมมมอธกันแน่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องวิจัยกันต่อไป
ข้อมูลจาก
ที่มาข้อมูล : REUTERS / ASSOCIATED PRESS / COLOSSAL BIOSCIENCES
ที่มารูปภาพ : REUTERS / ASSOCIATED PRESS / COLOSSAL BIOSCIENCES

Areeya Jaisook
(Areeya)