นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้อำนวยการกลาง/เลขานุการ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในวันนี้ภาคใต้อยู่ในเกณฑ์ดีมากระดับสีฟ้าทุกจังหวัด ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันตก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเฉพาะจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา ค่าฝุ่นอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ภาคตะวันออกสถานการณ์ฝุ่นค่อนข้างดี แต่ต้องเฝ้าระวังที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และตราด เนื่องจากมีพื้นที่ติดประเทศเพื่อนบ้านที่มีสถานการณ์ฝุ่นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือคุณภาพอากาศอยู่ในค่ามาตรฐานทุกสถานี
ส่วน 17 จังหวัดภาคเหนือ มีบางพื้นที่ที่สถานการณ์ฝุ่นเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ในโซนภาคเหนือตอนบนสถานการณ์ฝุ่นที่ดีขึ้น ภาพรวมแนวโน้มฝุ่นจะยังคงสูงเล็กน้อยจนถึงวันอาทิตย์นี้ และหลังจากนั้นในช่วงวันที่ 24 – 26 กุมภาพันธ์ 2568 สถานการณ์ฝุ่นจะเริ่มดีขึ้น เนื่องจากมีกระแสลมและมีฝนตกบางพื้นที่ และช่วงวันที่ 27 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 ค่าฝุ่นจะเริ่มกลับมาสะสมอีกรอบ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังในช่วงนี้ต่อไป
พื้นที่ที่มีค่าฝุ่นเฉลี่ยสูงที่สุด 5 จังหวัดแรก ได้แก่ ตำบลหน้าพระลาน อำเภอ เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี และตำบลคลองสะแก อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้านจุดความร้อน (Hotspot) ข้อมูล ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ภาพรวมทั้งประเทศ อยู่ที่ 267 จุด ซึ่งน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และมีแนวโน้มพบจุดความร้อนลดลงต่อเนื่อง โดย 5 จังหวัด ที่พบจุดความร้อนสูงสุด ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 47 จุด ตาก จำนวน 21 จุด นครราชสีมา จำนวน 18 จุด ลพบุรี จำนวน 15 จุด และกาฬสินธุ์ จำนวน 14 จุด ส่วนใหญ่พบจุดความร้อนในพื้นที่การเกษตร เขต ส.ป.ก. และป่าสงวนแห่งชาติ
“ในระยะนี้จำนวนจุดความร้อนลงลด ซึ่งเป็นผลจากการที่ทุกหน่วยงานร่วมกันดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่ากันอย่างเข้มแข็ง ประกอบกับปัจจัยจากสภาพอากาศในระยะนี้ที่มีลมพัดเข้ามา การระบายอากาศค่อนข้างดี และมีฝนตกในบางพื้นที่ ส่งผลให้สถานการณ์ฝุ่นของประเทศดีขึ้น ถึงแม้จากการคาดการณ์สถานการณ์อากาศในช่วง 1 – 2 วันข้างหน้า ค่าฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็เป็นเพียงช่วงระยะเวลาอันสั้น หลังจากนั้นสถานการณ์ฝุ่นจะดีขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยสุขภาพของประชาชนจากปัญหาฝุ่นละออง เมื่อวานนี้จึงได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมให้หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการตามมาตรการดูแลแก้ไขปัญหาฝุ่นอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกันบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่กระทำผิดและลักลอบเผา ดำเนินการจัดการต้นตอการเกิดฝุ่นในพื้นที่เขตเมืองอย่างเคร่งครัด ตลอดจนบูรณาการทุกภาคส่วนตรวจตราดูแลพื้นที่ป่าและดับไฟป่า พร้อมคุมเข้มการรับซื้อสินค้าเกษตรที่ผ่านการเผาและดำเนินการเชิงรุกในการจัดเตรียมแผนรับมือฝุ่นในห้วงปลายปี 2568 – ต้นปี 2569 อีกทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำสรุปรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก รอบ 50 วัน ที่ผ่านมา (1 มกราคม – 20 กุมภาพันธ์ 2568) เพื่อรายงานผลการดำเนินงานภาพรวมของประเทศในอาทิตย์หน้า
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีขอฝากขอบคุณทุกหน่วยงานและทุกจังหวัด ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองกันอย่างจริงจัง ทำให้เห็นผลผลัพธ์ภาพรวมของประเทศเป็นไปในทิศทางที่ดี” นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว
สรุปข่าว
ด้านนายจำนง สวัสดิ์วงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมกองบัญชาการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 20.00 น. ได้เกิดไฟป่าขึ้นในบริเวณแหลมกระทิง ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เบื้องต้นมีพื้นที่เสียหายจากไฟป่าประมาณ 10 กว่าไร่ ซึ่งจังหวัดภูเก็ตได้ระดมทรัพยากรจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าควบคุมไฟ แต่เนื่องจากกระแสลมค่อนข้างแรง ทำให้การควบคุมไฟค่อข้างลำบาก
แต่ปัจจุบันสามารถควบคุมไฟได้แล้วแต่เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ขอความร่วมมือจังหวัดเฝ้าระวังการเกิดสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่และเร่งเข้าพื้นที่แก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นโดยเร็วโดยเฉพาะในช่วงที่มีกระแสลมพัดแรง เพราะหากเกิดไฟป่า ไฟจะลุกลามได้ง่าย และยากต่อการควบคุมเพลิง
นอกจากนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการทั้ง 6 ด้านของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และข้อสั่งการเพิ่มเติมของนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้ไว้อย่างจริงจัง เน้นประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบการดำเนินงานของภาครัฐเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 รวมถึงเหตุผลความจำเป็นในการเพิ่มความเข้มข้นในการทำงานและการบังคับใช้กฎหมาย
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนและลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างประชาชนและภาครัฐ ควบคู่ไปกับการเผยแพร่องค์ความรู้เรื่องสาเหตุการเกิดฝุ่น PM2.5 ผลกระทบจาก PM 2.5 ที่มีต่อสุขภาพของประชาชน และวิธีการปฏิบัติอย่างถูกต้องปลอดภัยในช่วงที่สถานการณ์ฝุ่นมีความรุนแรง เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักรู้และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสุขภาพอย่างเคร่งครัด