นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อการผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และบริการสุขภาพระดับโลก หรือ Medical & Wellness Hub ว่า กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการจัดตั้ง "สำนักงานนโยบายและเศรษฐกิจสาธารณสุข (สนศส.)" เป็นหน่วยงานระดับกรม ทำหน้าที่วิเคราะห์ วิจัย และกำหนดนโยบายด้านเศรษฐศาสตร์สุขภาพและการคลังสุขภาพ เพื่อจัดสรรทรัพยากรให้คุ้มค่า สนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบาย และสร้างระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังเดินหน้ายกระดับภูมิปัญญาไทย คือ นวดไทย สมุนไพรไทย ยาไทย อาหารไทย ผลักดันการใช้ยาสมุนไพรในระบบหลักประกันสุขภาพ เพิ่มรายการยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติรวม 106 รายการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เน้นประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ เช่น สปา บ่อน้ำพุร้อน แหล่งน้ำแร่ จับคู่โรงแรมกับโรงพยาบาลในการให้บริการแพคเกจสุขภาพ พัฒนาระบบเอเยนซีขายแพคเกจสุขภาพ เพิ่มคลินิก Wellness การแพทย์และแพทย์ไทยในโรงแรม ซึ่งมีการนำร่องแล้วคือโมเดล Wellcation ของเขตสุขภาพที่ 5 และ Phuket Wellness Sandbox
อีกทั้งยังตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง (ATMPs) ภายในปี 2570 ซึ่งล่าสุดได้ร่วมกับคณะแพทย์ศาสตร์ 4 สถาบันในการพัฒนายาขั้นสูง ที่ออกฤทธิ์เป็นยีน เซลล์ หรือเนื้อเยื่อ โดยมีเป้าหมายให้มีผลิตภัณฑ์ยาขั้นสูง ออกสู่ตลาดอย่างน้อย 2 รายการ ภายในปี 2569 และยังมีนโยบายยกระดับคลินิกความงามให้มีมาตรฐานระดับสากล เปิดหลักสูตรอบรมแพทย์เวชปฏิบัติความงามเป็นหลักสูตรกลางของประเทศ และพัฒนาระบบเอเยนซีให้สามารถโฆษณาเชิญชวนชาวต่างชาติมารับบริการเรื่องของการอุ้มบุญและการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว การทำ ICSI และการผ่าตัดยืนยันเพศสภาพ ส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ โดยตั้งเป้าว่าทั้งหมดจะสามารถช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศได้ กว่า 6 แสน 9 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้
สรุปข่าว
