
นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยว่า ตนเห็นด้วยกับมาตรการตัดไฟฟ้าที่ส่งไปยังประเทศเมียนมา เพื่อแก้ปัญหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์และธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลควรดำเนินการเร็วกว่านี้ โดยยอมรับว่าการเข้ามาของนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะของจีน มีส่วนกดดันให้ภารกิจนี้เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายอุปกิตระบุว่า แม้พื้นที่ท่าขี้เหล็กจะมีการนำไฟฟ้าจากลาวมาทดแทน แต่ระยะทางที่ไกลอาจทำให้ระบบไฟฟ้าไม่มีความเสถียร ขณะที่การตัดไฟในพื้นที่อื่น ๆ เชื่อว่ามีผลต่อการควบคุมปัญหา นอกจากนี้ ยังเสนอให้ดำเนินมาตรการเดียวกันกับโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต รวมถึงขยายมาตรการนี้ไปยังฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา และพื้นที่ในลาว
นายอุปกิตยังกล่าวถึงการดำเนินธุรกิจของตนว่า ในอดีตพื้นที่ท่าขี้เหล็กไม่มีไฟฟ้าใช้ และบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป ซึ่งตนเคยเป็นเจ้าของ ได้รับสัมปทานไฟฟ้าจากการไฟฟ้าท่าขี้เหล็ก โดยช่วงที่ดำเนินธุรกิจยังไม่มีปัญหาคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ แต่ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวได้กลายเป็นภัยความมั่นคง
ทั้งนี้ นายอุปกิตยืนยันว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป ตั้งแต่ปี 2562 เนื่องจากได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา และได้ขายกิจการโรงแรมในเครือให้กับนายตุน มิน ลัต โดยมีการโอนชื่อผ่านลูกเขยก่อน เพื่อดำเนินการด้านเอกสารทางธุรกิจ ส่วนกิจการไฟฟ้ามีการโอนสิทธิสัมปทานให้ผู้รับรายใหม่ ซึ่งยังคงใช้ชื่อบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป แต่เพิ่มวงเล็บ (Power and Electricity)
นายอุปกิตยังปฏิเสธว่า นายตุน มิน ลัต ไม่ได้เป็นนอมินีของธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และแม้จะเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมสนับสนุนกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ศาลได้ยกฟ้องไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี 2567

สรุปข่าว