นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อลงรายละเอียดในโครงการโอนเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เฟส 3 หรือแจกเงินหมื่นเฟส 3 ซึ่งขณะนี้กรอบดำเนินการเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องรอประชุมเพื่อยืนยันรายละเอียดอีกครั้ง ขณะที่ระบบการจ่ายเงินดิจิทัลก็เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะใช้เวลาทดสอบไม่เกิน 1 เดือนเพื่อให้ระบบรัดกุม ยืนยันว่าเงินหมื่นจะถึงมือประชาชนไตรมาส 2 ตามกำหนดแน่นอน
โดยขณะนี้อยู่ในช่วงตรวจสอบข้อมูลว่าใครอยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับสิทธิบ้าง และต้องตรวจสอบคุณสมบัติด้วย ซึ่งประชาชนลงทะเบียนมาทั้งหมด 36 ล้านคน โดยการแจกเงินในระยะแรกไปแล้ว 14 ล้าน 5 แสนคน และระยะที่ 2 จำนวน 3 ล้านคน รวมแล้วกว่า 17 ล้านคน ส่วนนี้ต้องนำไปคัดออกอีกครั้ง คาดว่าจะมีตัวเลขประมาณ 16 ล้านคน ขณะที่กลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟน กำลังหาวิธีในการเปิดรับการลงทะเบียนว่าจะเป็นรูปแบบใด
สรุปข่าว
ทั้งนี้คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2567 ที่ผ่านมา สร้างเม็ดเงินใหม่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจถึง 4 แสนล้านบาท เริ่มตั้งแต่การแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 1 มีเม็ดเงินหมุนเวีรยน145,000 ล้านบาท เงินจากการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท จำวน 38,578 ล้านบาท
จากมาตรการ Easy E-Receipt จำนวน 70,000 ล้านบาท การแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 จำนวน 32,000 ล้านบาท และคาดว่าเม็ดเงินหมุนเวียนจากการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 จะมีจำนวน 150,000 ล้านบาท
นายจุลพันธ์ เปิดเผยด้วยว่า นอกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการแจกเงินหมื่นแล้ว คณะกรรมการกระตุ้นได้มอบหมายให้แต่ละส่วนงานไปคิดหามาตรการกระตุ้นเพื่อนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการว่าต้องการจะใช้กลไกใด ก่อนนำเสนอที่ประชุมอีกครั้ง ขณะที่ความคืบหน้าของการเปิดลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ คาดว่าจะชัดเจนภายในเดือนนี้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะต้องเปิดลงทะเบียนภายในเดือนมีนาคมนี้
ที่มาข้อมูล : กระทรวงการคลัง
ที่มารูปภาพ : AFP