TNN โลกกำลังถูกบีบให้เลือกข้างจีนหรือไต้หวัน จริงหรือ?

TNN

World

โลกกำลังถูกบีบให้เลือกข้างจีนหรือไต้หวัน จริงหรือ?

โลกกำลังถูกบีบให้เลือกข้างจีนหรือไต้หวัน จริงหรือ?

เวลานี้ จีนไม่พอใจสหรัฐฯ เชิญไต้หวันประชุมสุดยอดประชาธิปไตย พร้อมเตือนลิทัวเนีย เป็นเพียงเบี้ยให้สหรัฐฯ เรื่องไต้หวัน นอกจากนี้ ยังมีความวุ่นวายเกี่ยวกับการต่อต้านจีนลามไปถึงเกาะที่ห่างไกลด้วย

จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวานนี้ (24 พฤศจิกายน) แสดงความไม่พอใจที่สหรัฐฯ เชิญไต้หวันเข้าร่วมการประชุมสุดยอดประชาธิปไตย ที่สหรัฐฯ จะจัดขึ้นทางออนไลน์ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้


เขาระบุว่า การกระทำของสหรัฐฯ พิสูจน์ว่า คำกล่าวอ้างถึงประชาธิปไตยของสหรัฐฯ เป็นเพียงเครื่องมือและสิ่งบังหน้า ที่สหรัฐฯ ใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อข่มประเทศอื่น ๆ เพื่อแบ่งแยกโลกให้แตกแยก เพียงเพื่อรับใช้ผลประโยชน์ของตัวเอง และรักษาความเป็นมหาอำนาจในโลกนี้เท่านั้น


ด้าน จู เฟิงเหลียน โฆษกหญิงสำนักกิจการไต้หวันของจีน แถลงในวันเดียวกันว่า จีนคัดค้านการติดต่ออย่างเป็นทางการใด ๆ ระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน ซึ่งเป็นภูมิภาคหนึ่งของจีน


---ลิทัวเนียเป็นเพียงเบี้ยสหรัฐฯ---


จ้าว ลี่เจียน ยังระบุถึงลิทัวเนีย ที่เพิ่งยอมให้ไต้หวันไปเปิดสำนักงานตัวแทนทางการทูตอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในลิธัวเนียว่า ลิทัวเนียยอมตัวให้เป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งให้สหรัฐฯ เดินเท่านั้น แต่กลับขาดความกล้าที่จะยอมรับอย่างเปิดเผย


จ้าวกล่าวหาลิทัวเนีย โดยอ้างรายงานของสื่อในเยอรมนีและงานวิจัยของนักวิชาการในเยอรมนี ที่ได้เปิดโปงลิทัวเนียมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อนแล้วว่า ลิทัวเนียเป็นหนึ่งในประเทศที่ยอมให้สำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ CIA เปิด “คุกลับ” เพื่อกักขังผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย และใช้การทรมานเพื่อให้พวกเขาสารภาพ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง


ขณะเดียวกัน ทางด้าน เกเบรียลลิอุส แลนด์สเบอร์กิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย เรียกร้องยุโรป ให้เพิ่มความเกี่ยวข้องและความสัมพันธ์กับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เพื่อต่อต้านการ “บีบบังคับขู่เข็ญ” ทางด้านเศรษฐกิจของจีน หลังลิทัวเนียเพิ่งถูกจีนประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตไปเมื่อวันอาทิตย์ (21 พฤศจิกายน) เพื่อตอบโต้ที่ยอมให้ไต้หวันเปิดสำนักตัวแทนการทูตอย่างเป็นทางการในลิทัวเนีย ทั้ง ๆ ที่ลิทัวเนียมีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับจีนอยู่ ไม่ใช่ไต้หวัน


ลิทัวเนียยังกลัวว่า จีนอาจจะเพิ่มการตอบโต้ลิทัวเนียต่อไปอีก ด้วยการตัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับลิทัวเนีย เพื่อให้ลิทัวเนียได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ


---ปมไต้หวัน ลามไกลถึงหมู่เกาะโซโลมอน---


ไปดูเรื่องราวที่หมู่เกาะโซโลมอน ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกกันบ้าง เมื่อเกิดความรุนแรงต่อต้านรัฐบาลลุกลามไปทั่ว และยังมีการจุดไฟเผาบ้านเรือนเป็นจำนวนมากด้วย หนึ่งในชนวนการประท้วงที่บานปลาย ก็เกี่ยวข้องกับจีนและไต้หวันเช่นกัน


จุดที่เกิดการประท้วง นำมาสู่การจุดไฟเผา เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจ ในย่านไชน่าทาวน์ ในเมืองหลวงโฮนีอารา (Honiara) โดยเริ่มประท้วงรุนแรงเมื่อวันพุธ (24 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วนได้พยายามเข้าไปในอาคารรัฐสภา และทำเนียบนายกรัฐมนรีมานาสเซห์ โซกาแวร์ อีกด้วย


ด้านรัฐบาลออสเตรเลีย กล่าววันนี้ (25 พฤศจิกายน) ว่า จะส่งกองกำลังสันติภาพเข้าไปยังโซโลมอนเพื่อช่วยควบคุมสถานการณ์ แต่รัฐบาลของโซกาแวร์ ยังยืนยันว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้


Reuters รายงานโดยอ้าง Radio New Zeland ว่า ตำรวจกรุงโฮนีอารายิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วง ที่วางเพลิงเผาอาคารหลายหลัง ที่รวมถึงร้านค้าที่ถูกเผา ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องมืออุปกรณ์ และสถานีตำรวจ ผู้ประท้วงยังบุกปล้นสะดมร้านค้าอีกหลายร้าน และมีรายงานว่าอาคารรัฐสภาก็ถูกวางเพลิงด้วย


ทำให้โซกาแวร์ต้องประกาศเคอร์ฟิวทั่วทั้งเมืองหลวง เป็นเวลานาน 36 ชั่วโมง


ผู้ประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี มานาสเซห์ โซกาแวร์ ของหมู่เกาะโซโลมอน ลาออก กล่าวหาโซกาแวร์ล้มเหลวในการทำตามสัญญาหาเสียงเรื่องการแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเศรษฐกิจ และยังโกรธแค้นรัฐบาลด้วยปมปัญหาอีกหลายอย่าง


---ประเด็นจีนและไต้หวัน เกี่ยวข้องอะไรด้วย?---


หนึ่งในประเด็นที่ทำให้กลายเป็นชนวนการประท้วงครั้งใหญ่ของประชาชนในครั้งนี้คือ การที่รัฐบาลโซโลมอนตัดสินใจตัดความสัมพันธ์กับไต้หวันในปี 2019 ทั้งที่ที่ผ่านมามีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อไต้หวันมากกว่าปักกิ่ง มานานกว่า 36 ปี


แต่แล้ว รัฐบาลชุดนี้ ได้หันไปสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับจีนแทน โดยสำนักข่าว ABC รายงานว่า จีนได้ประกาศให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่โซโลมอน มากถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 15,000 ล้านบาท แก่ประเทศที่ยากจนที่สุดของแปซิฟิกแห่งนี้ เพื่อแลกกับการมีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน


ครั้งนั้น นางไช่ อิง เหวิน กล่าวว่า เสียใจอย่างยิ่ง และขอประณามรัฐบาลโซโลมอน ที่ตัดสินใจเช่นนั้น


การตัดสินใจดังกล่าวได้ตามหลอกหลอนรัฐบาลโซโลมอน ทำให้ถูกประชาชนกดดันมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบันนี้ แต่นายกฯ โซกาแวร์ กล่าวว่า การตัดสินใจยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน เพื่อ "กลับไปยืนในจุดที่ถูกต้อง"


การประท้วงครั้งนี้ นำโดยประชาชนที่มาจากจังหวัดมาไลตา เกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะโซโลมอน อยู่ห่างจากกรุงโฮนีอาราไปประมาณ 120 กิโลเมตร

—————

แปล-เรียบเรียง: ภัทร จินตนะกุล

ภาพ: WilsOnCenter

ข่าวแนะนำ