เรือยักษ์ขวางคลองสุเอซกระทบต่อหลายเดือน ขาดแคลนชิปผลิตรถ-เกมส์

วันนี้ (30 มี.ค. 64)กัปตันแอนดรูว์ คินเซย์ ผู้จัดการฝ่ายดูแลด้านความเสี่ยงของบริษัทอัลลิอันซ์เปิดเผยว่า แม้ว่าเรือ Ever Given สามารถหลุดจากการเกยตื้นและกลับมาลอยบนพื้นน้ำของคลองสุเอซได้อีกครั้ง แต่ผลกระทบจากการที่เรือลำดังกล่าวกีดขวางเส้นทางสัญจรในคลองสุเอซเป็นเวลานานเกือบ 1 สัปดาห์นั้น จะดำเนินต่อไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า

 

กัปตันคินเซย์เปิดเผยกับรายการ "The News with Shepard Smith" ของสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า "เรือที่ติดค้างอยู่ในคลองสุเอซมีทั้งเรือที่บรรทุกสินค้าเต็มลำ และเรือขนตู้คอนเทนเนอร์เปล่าที่จะเดินทางไปรับสินค้า แต่ด้วยความล่าช้าที่เกิดขึ้นเนื่องจากเหตุการณ์เรือยักษ์ขวางคลองอยู่นั้น ทำให้การเดินทางล่าช้า และปริมาณเรือจะพุ่งขึ้นที่ท่าเรือต่างๆ เมื่อเรือเดินทางมาถึง"

ทั้งนี้ เรือ Ever Given ซึ่งหนัก 220,000 ตัน และยาวประมาณ 400 เมตรซึ่งเป็นความยาวที่เท่ากับความสูงของตึกเอ็มไพร์ สเตทในสหรัฐ ได้เกยตื้นขวางคลองสุเอซเป็นเวลานานเกือบ 6 วัน ก่อนที่จะได้รับการช่วยกู้จนสามารถลอยได้อีกครั้งเมื่อวานนี้ (29 มี.ค.)

นายโอซามา ราบี หัวหน้าฝ่ายกำกับดูแลคลองสุเอซของอียิปต์คาดว่า มีเรืออย่างน้อย 113 ลำจากกว่า 420 ลำที่ลอยลำรอการสัญจรอยู่นั้น จะสามารถแล่นข้ามคลองสุเอซได้ในช่วงเช้าวันนี้แต่กัปตันคินเซย์ซึ่งเคยขับเรือข้ามคลองสุเอซมาแล้วหลายสิบเที่ยวกล่าวว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว จะยังปรากฏให้เห็นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ และอาจยิ่งเร่งให้เกิดภาวะขาดแคลนชิปที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ทั่วโลก
  

"สิ่งที่เราต้องตระหนักในเวลานี้ก็คือ เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไม่เพียงแค่บรรทุกสินค้าที่ผลิตแล้วเท่านั้น แต่ยังบรรทุกชิ้นส่วนสำหรับใช้ในการผลิตสินค้าด้วย ขณะนี้ไมโครชิปที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ถือเป็นหนึ่งในสินค้าที่กำลังขาดตลาด และเหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อการผลิตเป็นวงกว้างตั้งแต่การผลิตวิดีโอเกมไปจนถึงรถยนต์" กัปตันคินเซย์กล่าว

คลองสุเอซเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าราว 12% ของการค้าโลก ขณะที่วารสาร Lloyd’s List ประมาณการว่า มูลค่าสินค้าบนเรือที่แล่นผ่านคลองแห่งนี้อยู่ในระดับสูงกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน หรือราว 400 ล้านดอลลาร์ต่อชั่วโมง