“ไบเดน” ชี้รัสเซียไม่มีทางชนะ ย้ำสนับสนุนยูเครนไม่เปลี่ยนแปลง
ประธานาธิบดี ‘โจ ไบเดน’ แห่งสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ ตอบโต้ ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ประธานาธิบดีรัสเซีย ชี้ “รัสเซียไม่มีวันมีชัยชนะเหนือยูเครนแน่นอน”
‘ไบเดน’ ชี้รัสเซียไม่มีทางชนะยูเครน
ประธานาธิบดี ‘โจ ไบเดน’ ของสหรัฐฯ ก็ได้กล่าวสุนทรพจน์ ตอบโต้ประธานาธิบดี ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ของรัสเซียที่เพิ่งแถลงนโยบายประจำปีไปเมื่อวันนี้ ว่า รัสเซียไม่มีวันมีชัยชนะเหนือยูเครนแน่นอน
พร้อมประณามผู้นำรัสเซียต่อไป ซึ่งการกล่าวสุนทรพจน์นี้ของไบเดนมีขึ้นเพื่อตอบโต้ปูตินเมื่อวานนี้ ที่บอกว่า “รัสเซียไม่ได้เป็นผู้เริ่มสงคราม แต่มหาอำนาจชาติตะวันตกต่างหากที่ขวนขวายหาอำนาจที่ไร้ขีดจำกัด ซึ่งใช้ยูเครนเป็นสนามรบ”
โดยไบเดนกล่าวที่กรุงวอร์ซอ หลังจากเดินทางถึงโปแลนด์ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ได้เดินทางไปยังกรุงเคียฟ ของยูเครน เพื่อพบผู้นำยูเครนโดยไม่บอกล่วงหน้าด้วย
‘ไบเดน’ ย้ำสนับสนุนยูเครนไม่เปลี่ยนแปลง
ขณะเดียวกันไบเดนก็ประกาศว่าจะยังคงสนับสนุนยูเครนต่อไป ไม่มีเปลี่ยนแปลง แม้จะเข้าสู่ปีที่ 2 ของวิกฤตนี้แล้วก็ตาม เขากล่าวว่า เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ทั่วโลกต่างภาวนาให้ยูเครนปลอดภัย ผมกล้าพูดเลยว่ายูเครนนั้นแข็งแกร่งมากและยืนอยู่ได้ด้วยความภาคภูมิ
ภายหลังจากไบเดนประชุมร่วมกับประธานาธิบดี ‘อันด์แชย์ ดูดา’ ของโปแลนด์ ซึ่งเป็นพันธมิตรนาโต ไบเดนก็เน้นย้ำถึงพันธะกรณีตามมาตรา 5 ของนาโตที่ว่า หากชาติสมาชิกใดถูกโจมตี ก็เหมือนเป็นการโจมตีต่อทุกประเทศในนาโต พร้อมตอบโต้ต่อไป
สหรัฐฯ ผิดหวังรัสเซียระงับสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์
ด้าน ‘แอนโทนี บลิงเคน’ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ แสดงความผิดหวังต่อเรื่องที่ปูตินประกาศระงับความร่วมมือของรัสเซีย ในสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ ‘New START’ กับสหรัฐฯ โดยบลิงเคนบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและไร้ความรับผิดชอบของรัสเซีย ซึ่งสหรัฐฯ จะจับตามองต่อไปว่ารัสเซียจะทำจริงหรือไม่ และจะหาวิธีการตอบโต้อย่างเหมาะสมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปูตินระบุว่าเป็นเพียงแค่การระงับ แต่ไม่ได้ถอนตัว แต่จะไม่เริ่มทดลองนิวเคลียร์ก่อน แต่ถ้าสหรัฐฯ เริ่ม รัสเซียก็อาจทำตาม
ทั้งนี้ สหรัฐฯ และรัสเซียลงนามในข้อตกลง ‘New START’ ในปี 2010 ซึ่งจะจำกัดให้แต่ละประเทศมีหัวรบนิวเคลียร์ไม่เกิน 1,550 หัวรบ โดยข้อตกลงดังกล่าวจะสิ้นสุดอายุในปี 2026
—————
แปล-เรียบเรียง: พิชญาภา สูตะบุตร
ภาพ: Reuters
ข้อมูลอ้างอิง: