"ทรัมป์" ประกาศชิงปธน. 2024 ชู อเมริกา กลับสู่ความยิ่งใหญ่
อดีตประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ประกาศเสนอตัวชิงตัวแทนพรรครีพับลิกัน เพื่อลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอีก 2 ปีข้างหน้าตามคาด หวังแก้มืออีกครั้งกับประธานาธิบดี "ไบเดน" โดยใช้สโลแกนเดิม จะทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง ‘make America great again’ ขณะที่ สมาชิกบางส่วนของพรรครีพับลิกัน ประกาศให้การสนับสนุน
นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 76 ปี ประกาศจะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในปี 2024 แม้ว่าในการเลือกตั้งกลางสมัย หรือกลางเทอม ที่มีขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรครีพับลิกันจะไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ก็ตาม
ทรัมป์ประกาศตัวที่รีสอร์ทหรู มาร์-อะ-ลาโกของเขา ในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ว่า เขา จะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง หากได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย กับคำขวัญเดิมครั้ง ‘make America great again’
ท่ามกลางเสียงปรบมือและไชโยโห่ร้องของผู้สนับสนุนหลายร้อยคนในห้องบอลรูมภายในรีสอร์ท และนางเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยาของเขาและอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ขึ้นเวทีด้วย
ทรัมป์ กล่าวว่า ขณะนี้สหรัฐฯ เป็นประเทศที่กำลังเสื่อมถอย รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ทำลายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในเวลาเพียง 2 ปี
ถนนหนทางในเมืองที่เคยยิ่งใหญ่กลายเป็นแหล่งรวมอาชญากรรมรุนแรง เขาจะทำให้ไบเดนไม่ได้รับโอกาสอีก ขณะที่ประธานาธิบดีไบเดน ได้ออกมาตอบโต้ ด้วยการทวีตข้อความจากบาหลีว่า "โดนัลด์ ทรัมป์ ทำอเมริกาผิดหวังมาแล้ว"
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ยื่นเอกสารสมัครอย่างเป็นทางการต่อเจ้าหน้าที่เลือกตั้งไปเมื่อต้นเดือนนี้ และจะเป็นการลงเลือกตั้งครั้งที่ 3 ของเขา และการที่ทรัมป์ชิงประกาศตัวแต่เนิ่น ๆ ก่อนใคร ด้วยหวังส่งสัญญาณจะชิงพื้นที่ก่อนคู่แข่งคนอื่น ๆ ในพรรครีพับลิกัน เช่น รอน เดอแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา หรือไมค์ เพนซ์ อดีตรองประธานาธิบดีของเขาเอง ไม่ให้เสนอชื่อพรรครีพับลิกัน
ขณะเดียวกัน สมาชิกบางคนของพรรครีพับลิกัน ได้โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ สนับสนุนการหาเสียงชิงประธานาธิบดีของทรัมป์ แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดทรัมป์ บอกว่า นางอิวังกา ทรัมป์ ลูกสาวคนโปรดของทรัมป์ มีแผนถอนตัวจากการเมือง จะไม่เข้าร่วมในทีมหาเสียงของบิดา โดยขอให้ความสำคัญกับ ชีวิตครอบครัวเธอ แต่มีรายงานว่า“ทรัมป์ จะกล่อม อิวานกา ให้กลับมาช่วยเขาหาเสียงได้สำเร็จ เพราะเธอเป็นคนที่บรรดาแฟนคลับอยากได้ยินคำปราศรัยมากที่สุดรองจาก ทรัมป์.
ขณะที่ ผลสำรวจเอ็กซิตโพลโดย Edison Research พบว่า ชาวอเมริกันที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกลางเทอม 7 ใน 10 คนมองว่า ไบเดน “ไม่สมควร” ที่จะลงสมัครประธานาธิบดีอีกสมัย ขณะที่ 6 ใน 10 คนตอบว่าพวกเขามีมุมมองที่ไม่ค่อยดีต่อ ทรัมป์
ส่วน ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ คะแนนในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเลือกตั้งทั้งสิ้น 435 ที่นั่ง จนถึงวันนี้ พรรครีพับลิกันขยับเข้าใกล้ชัยชนะ ครองเสียงข้างมาก 218 ที่นั่ง เมื่อล่าสุดได้คะแนนไปแล้ว 217 ที่นั่ง ขออีกเพียง 1 ที่นั่งเท่านั้น ส่วนพรรคเดโมแครตได้เพิ่มเป็น 208 ที่นั่ง ซึ่งไม่น่าจะมีปาฏิหาริย์
ส่วน คะแนนของวุฒิสภาทราบผลไปแล้ว พรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับชัยชนะครองเสียงข้างมากเหมือนเดิม 50 ที่นั่ง ส่วนพรรครีพับลิกัน 49 ที่นั่ง เหลืออีกที่นั่งเดียวในรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 6 ธันวาคม
ด้าน พรรครีพับลิกันเดินหน้าสู่การครองสภาล่างสหรัฐฯ แล้ว ด้วยการเสนอชื่อ "เควิน แม็คคาร์ธี" ผู้นำเสียงข้างน้อยของรีพับลิกันในสภาล่าง เป็นประธานสภาล่างคนใหม่ เพื่อแทน "แนนซี เพโลซี"
โดย แมคคาร์ธีได้คะแนนสนับสนุนในรีพับลิกัน 188 เสียง และคัดค้าน 31 เสียง เอาชนะคู่แข่ง คือ แอนดี บิกกส์ สส. จากรัฐแอริโซนา มาได้
อย่างไรก็ดีเขาจะต้องได้รับการสนับสนุนด้วยเสียงข้างมาก 218 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร ที่จะต้องมีการลงคะแนนกันในเดือนมกราคมปีหน้า เพื่อให้ได้ครองเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ คนใหม่