อิสราเอล-ตุรกี ฟื้นสัมพันธ์ จ่อตั้งเอกอัครราชทูตครั้งแรกรอบ 4 ปี

สองปีที่ผ่านมา อิสราเอลพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับหลายชาติมหาอำนาจในภูมิภาค 

ล่าสุด อิสราเอลและตุรกีประกาศการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกลับคืนสู่ระดับปกติแล้ว และเตรียมแต่งตั้งเอกอัครราชทูตเป็นครั้งแรก ในรอบ 4 ปี

---ตุรกีและอิสราเอลฟื้นความสัมพันธ์---

ตุรกีและอิสราเอลตกลงที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตเต็มรูปแบบ ให้กลับมาสู่ระดับปกติแล้ว และต่างฝ่ายต่างจะส่งตัวเอกอัครราชทูตกลับไปยังอีกประเทศ  หลังจากความสัมพันธ์ทั้งสองค่อย ๆ ดีขึ้น 

แถลงการณ์จากสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยาอีร์ ลาพิด เมื่อวันพุธ (17 สิงหาคม) ระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งสอง การขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรม และเสริมสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค 

แถลงการณ์ดังกล่าว มีขึ้นหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง นายกรัฐมนตรียาอีร์ ลาพิด ของอิสราเอล กับประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ที่ระบุถึงการยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ ให้กลับคืนสู่ระดับปกติอีกครั้ง เพื่อส่งเสริมและขยายขอบเขตความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีในทุกมิติ

ด้านกระทรวงการต่างประเทศตุรกีเผยแพร่แถลงการณ์ ในวันเดียวกัน ระบุว่า อิสราเอลและตุรกีเตรียมแต่งตั้งเอกอัครราชทูต เพื่อเดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ที่เทลอาวีฟ และกรุงอังการา ย้ำว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าว ไม่ได้หมายความว่าจุดยืนของรัฐบาลตุรกีต่อเรื่องปาเลสไตน์จะเปลี่ยนแปลง

เมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีแถลงกว่า การแต่งตั้งเอกอัครราชทูตเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำหรับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ ความก้าวหน้าในเชิงบวกดังกล่าวมาจากความพยายามทั้งจากอิสราเอลและตุรกี และ ตัดสินใจแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลไปยังเทลอาวีฟ 

พร้อมระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ได้หมายความว่าตุรกีจะละทิ้งประเด็นปาเลสไตน์

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีขึ้น ขณะที่อิสราเอลพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับมหาอำนาจในภูมิภาค หลังจากบรรลุข้อตกลงอับราฮัมเป็นเวลา 2 ปี ที่ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอล บาห์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโมร็อกโกอยู่ในระดับปกติ  

---ย้อนสัมพันธ์ร้าวอิสราเอล-ตุรกี---

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน ในปี 2018 อิสราเอลและตุรกีขับเอกอัครราชทูตกันและกันออกนอกประเทศ จากเหตุชาวปาเลสไตน์ประท้วงครั้งใหญ่ ต่อการที่สหรัฐฯ ย้ายสถานเอกอัครราชทูตจากกรุงเทลอาวีฟ มายังนครเยรูซาเลม โดยปฏิบัติการปราบปรามโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอล ส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 60 คน 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศมีประเด็นให้ถกเถียงกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับปาเลสไตน์

แต่หลังจากการที่ประธานาธิบดีไอแซค เฮอร์ซอก แห่งอิสราเอล เยือนกรุงอังการา ของตุรกี เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และการไปเยือนอีกฝ่ายของรัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีและอิสราเอล ช่วยให้สถานการณ์ผ่อนคลายขึ้น จนนำมาสู่การฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตมาสู่ระดับปกติในครั้งนี้

————

แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ

ภาพ: Reuters