นักเศรษฐศาตร์ห่วง "เอลนีโญ" ทุบเศรษฐกิจ ทำจีดีพีดิ่งราว 4 หมื่นล้านบาท
นักเศรษฐศาสตร์ ห่วง "เอลนีโญ" ถ่วงเศรษฐกิจ "อีไอซี" คาดทุบ "จีดีพี" ดิ่งราว 4 หมื่นล้านบาท หากลากยาวเสียหายส่อทะลุ 6 หมื่นล้าน
นายเกียรติศักดิ์ คำสี นักวิเคราะห์อาวุโส Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า หากดูข้อมูลน้ำฝนในเดือนมิ.ย. สะท้อนว่า การกลับมาของ เอลนีโญ อาจส่งผลให้พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ประสบกับภาวะฝนแล้งรุนแรงมากกว่าที่ SCB EIC คาดการณ์ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
ดังนั้น หากดูผลกระทบจาก เอลนีโญ อาจมากกว่า "กรณีฐาน" ที่ประเมินไว้ก่อนหน้าไปแล้ว กรณีฐานคาดผลกระทบ ที่เกิดจากภาวะฝนแล้งปีนี้ มีต่อพืชผลทางการเกษตรจะอยู่ที่ 40,414 ล้านบาท แบ่งเป็นความเสียหายจาก ข้าวนาปี 7,493 ล้านบาท ข้าวนาปรัง 18,463 ล้านบาท อ้อย 12,554 ล้านบาท และ มันสำปะหลัง 1,903 ล้านบาท
ทั้งนี้้ หากดูแต่ละภาคพบว่า ปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าค่าปกติค่อนข้างมาก ดังนั้นสถานการณ์จากฝนแล้ง อาจกระทบมากกว่าที่ประเมินไปตั้งแต่ต้นที่คาดผลกระทบปีนี้ 4 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กรณีร้ายแรงสุด หรือกรณีแย่ คาดการณ์ว่า ความเสียหาย ที่เกิดจากเอลนีโญ จะมีมากถึง 63,801 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นความเสียหายจากพืชผลทางการเกษตร เช่น ข้าวนาปี ที่ 13,286 ล้านบาท ข้าวนาปรัง 23,624 ล้านบาท อ้อย 23,767 ล้านบาท และมันสำปะหลัง 3,124 ล้านบาท หากสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรง และลากยาวมากขึ้นกว่าที่ประเมิน
ด้านนายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ภาวะเอลนีโญ น่าห่วงมากขึ้น เริ่มเห็นผลผลิตทางการเกษตรลดลงต่อเนื่อง และประเมินว่า สถานการณ์จะรุนแรงขึ้นช่วงปลายปี จนถึงปีหน้า ที่อาจกระทบต่อภาคการเกษตรค่อนข้างมาก และอาจนำไปสู่ การเพิ่มราคาสินค้า ให้ขยับตัวสูงขึ้นได้ แต่จาก กำลังซื้อระดับล่างของไทย ถือว่าอ่อนแอ อาจทำให้ราคาสินค้าอาจไม่ได้เพิ่มมากขึ้น และยังเชื่อว่า เงินเฟ้อไทย น่าจะอยู่ต่ำกว่ากรอบที่ระดับ 1-3% ในปีนี้และปีหน้า
ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE
ที่มาภาพ : TNN