
สภาพอากาศแปรปรวนอากาศเย็น ก่อนกลับมาร้อนจัด
นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ และรองโฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทยกำลังเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนอง และอากาศเย็นลงอย่างฉับพลัน สาเหตุหลักมาจากมวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุม ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นลงอย่างชัดเจน ขณะที่ภาคอื่น ๆ อุณหภูมิลดลงเช่นกัน ยกเว้นภาคใต้ที่ยังคงมีฝนตกในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
อย่างไรก็ตาม หลังจากวันที่ 22 มีนาคม มวลอากาศเย็นจะเริ่มอ่อนกำลังลง ส่งผลให้อุณหภูมิในช่วงกลางวันปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง โดยคาดว่าอากาศจะกลับมาร้อนจัดถึง 40 - 41 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนมีนาคม ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมเป็นต้นไป หลายพื้นที่ในภาคเหนือ อาทิ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก ลำปาง เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิจิตร และพิษณุโลก อาจเผชิญกับฝนฟ้าคะนอง หรือพายุฤดูร้อน
นอกจากนี้ กระแสลมที่มีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจะช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากประเทศ อย่างไรก็ตาม ในภาคเหนือยังคงต้องเฝ้าระวังจุดความร้อนบริเวณแนวชายแดน เนื่องจากค่าฝุ่นละอองยังอยู่ในระดับสูง ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลไม่น่าเป็นกังวลมากนัก

สรุปข่าว
แนวโน้มอากาศก่อนสงกรานต์
กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า ช่วงต้นเดือนเมษายน อากาศจะยังไม่ร้อนจัดมากนัก โดยความร้อนจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในวันที่ 7-8 เมษายน จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย ส่วนเกษตรกรควรเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตร
สถานการณ์น้ำและภัยแล้งปี 2567
นายสมควรยังระบุว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับสภาพอากาศ ปริมาณฝน และฝุ่นละออง สำหรับสถานการณ์น้ำในปีนี้ คาดว่าปริมาณฝนในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมจะกระจายตัวได้ดี ทำให้พื้นที่ที่เคยเผชิญกับฝนตกน้อย เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จะไม่ประสบภัยแล้งรุนแรง และจะมีน้ำเพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภค
อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำอาจยังไม่มากนัก และต้องรอให้ถึงช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีฝนตกชุกเพื่อกักเก็บน้ำเพิ่มเติม ทั้งนี้ แม้ว่าภัยแล้งปีนี้อาจเกิดขึ้นในบางพื้นที่ แต่ปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยบรรเทาอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้อากาศโดยรวมไม่ร้อนจัดเท่ากับปีที่ผ่านมา
ที่มาข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา
ที่มารูปภาพ : Getty Images