จริงหรือ? เครียดติดต่อกัน 5 วัน เซลล์ในร่างกายจะกลายเป็นมะเร็งได้ทันที
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ไขข้อสงสัย เครียดติดต่อกัน 5 วัน เซลล์ในร่างกายจะกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ทันที จริงหรือไม่?
ตามที่มีการบอกต่อข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องหากมีความเครียดติดต่อกัน 5 วัน เซลล์ในร่างกายจะกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ทันที ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีผู้โพสต์ระบุว่าหากมีความเครียดติดต่อกัน 5 วัน เซลล์ในร่างกายจะกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ทันที ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ความเครียด คือ การตอบสนองของร่างกายต่อสภาวะกดดันทางกาย จิตใจ และอารมณ์ เมื่อมีความเครียดเกิดขึ้น ร่างกายจะมีการสร้างฮอร์โมนเพื่อตอบสนองต่อความเครียดนั้น ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น จากการสืบค้นข้อมูลเบื้องต้นพบว่าความเครียดอาจเกี่ยวข้องกับการขยายขนาดและแพร่กระจายของมะเร็งในผู้ป่วยโรคมะเร็ง
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าการมีความเครียดน้อย ๆ ในช่วงสั้น ๆ จะทำให้ร่างกายตื่นตัว ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ในทางกลับกันหากความเครียดนั้นกินระยะเวลายาวนานจะส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ และอาจนำไปสู่การมีพฤติกรรมเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มสุรา เป็นต้น สำหรับการเผยแพร่ข้อมูลว่าหากมีความเครียดติดต่อกัน 5 วัน เซลล์ในร่างกายจะกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ทันทีนั้น พบว่ายังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันแน่ชัด และหากความเครียดส่งผลกระทบหลายด้าน จึงควรหาวิธีผ่อนคลายจากภาวะเครียด เช่น การออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ ทำกิจกรรมที่ชอบ นั่งสมาธิ เป็นต้น
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันแน่ชัด แต่ความเครียดอาจนำไปสู่การมีพฤติกรรมเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มสุรา เป็นต้น
ที่มา ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม
ภาพจาก AFP