10 เว็บ-แอปฯลงขายได้ ช้อปก็ดีปี 2021 มีอะไรบ้าง?
พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์มือใหม่ต้องรู้ 10 เว็บ-แอปฯลงขายสินค้าได้ ช้อปปิ้งก็ดี 2021 มีอะไรบ้าง?
ผู้บริโภคอย่างเราๆในปัจจุบันนี้ คุ้นเคยกับการสั่งของออนไลน์กันมากขึ้นกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา หรือในยุคที่ยังไม่มีวิด-19 ระบาด ยิ่งเมื่อเจอกับวิกฤตเศรษฐกิจจากโควิดจนต้องถูกให้ออกจากงาน หลายคนจึงผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการกันมากขึ้น โดยอาศัยช่องทางออนไลน์นี่แหละเป็นร้านค้า เพราะเหมาะกับสถานการณ์ที่เราต้องเลี่ยงการออกไปพบเจอกับเชื้อไวรัส
วันนี้ TNN ONLINE จึงรวบรวม รายชื่อเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ก็สามารถโพสต์ขายสินค้าได้ มีระบบการจัดการหลังบ้านให้เสร็จสรรพ ผู้ประกอบการใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงก็สามารถปรึกษาจากผู้ดูแลแพลตฟอร์มได้ หรือใครต้องการจะช้อปปิ้งด้วยก็ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ มั่นใจได้ด้วยระบบการดูแลข้อมูลการจ่ายเงินของลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งในปี 2021 นี้จะมีแพลตฟอร์มไหนบ้างติดตามกันได้เลย
1.Lazada เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่อยู่ในใจใครหลายคนอย่างแน่นอน ซึ่งในปีนี้เว็บไซต์ขายของออนไลน์อันดับหนึ่งที่มีคนใช้มากที่สุดในประเทศไทยก็ยังตกเป็นของ Lazada ซึ่งแพลตฟอร์มนี้เราสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้แบบฟรีๆ ไม่ต้องลงทุนอะไร ที่สำคัญยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชันที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด มีระบบการจัดส่ง จัดเก็บสินค้าและการจ่ายเงินแบบรัดกุม แถมยังมีโปรโมชันจูงใจให้ลูกค้าซื้อของมาต่อเนื่อง ซึ่งถ้าใครอยากเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการ Lazada ก็เป็นอีกช่องทางที่พร้อมจะซัพพอร์ตธุรกิจใหม่ให้เติบโตก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ Lazada ยืนยันตัวตน ลงรายละเอียดสินค้า ระบุราคาให้ชัดเจน
2. Shopee เป็นอีกแพลตฟอร์มที่สูสีกันกับ Lazada เลยก็ว่าได้ แต่จุดเด่นของ Shopee ก็คือสามารถขายได้ทั้งของมือหนึ่งและมือสอง ส่งสินค้าฟรี หรือสามารถจัดแคมเปญ โปรโมชัน โค้ดส่วนลดในการจูงใจลูกค้าของเราเองได้ จึงทำให้ Shopee เป็นอีกหนึ่งเว็บที่มีอันดับการค้นหาหรือ Search Engine Optimization ที่ดี ที่ทางผู้พัฒนาเว็บมาได้อย่างต่อเนื่อง โดยหากต้องการจะสมัครเพื่อขายหรือซื้อสินค้าก็แค่ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Shoppee ลงในเครื่อง หรือสามารถสมัครผ่านทางเว็บไซต์ Shoppee ได้เช่นกัน ลงทะเบียนเพื่อทำการยืนยันตัวตนโดยใช้ข้อมูลส่วนตัว อาทิ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมลล์ LINE หรือ Facebook เป็นต้น
3. Alibaba เว็บไซต์นี้เหมาะเป็นพิเศษสำหรับธุรกิจ B2B ที่เน้นการขายสินค้าในจำนวนมากๆ ยกโหล ยกแพ็ก หรือ “ขายส่ง” โดยเป็นสินค้าที่ผลิตเอง ระบุสต็อกสินค้าได้ กรณีสินค้าหมด หรือผลิตไม่ทันขาย ทำ Quotation หรือใบเสนอราคาได้ อีกทั้งสามารถติดต่อกับพ่อค้าคนกลางได้ในวงกว้าง และตัวเว็บไซต์ของ Alibaba เองก็ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นขายของออนไลน์ ไม่มีการแบนไอดี นอกจากทำผิดร้ายแรงจริง ๆ ส่วนขั้นตอนการสมัคร ก็ทำได้โดยการเข้าเว็บไซต์ Alibaba จากนั้นไปที่ Join Now กรอกข้อมูลรายละเอียดส่วนตัวเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นคลิ๊กที่ Create Account เลือกประเภทของสินค้า พร้อมกับเขียนคำอธิบายลงไปสั้น ๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจ อัพโหลดรูปถ่าย ขนาด และรุ่นของสินค้า พร้อมทั้งเลือกรูปแบบการชำระเงินให้เรียบร้อย ใส่รายละเอียดที่ตั้งของสถานที่จัดส่งสินค้า หรือที่อยู่ผู้ขายถือเป็นอันเรียบร้อย
4. eBay เป็นอีกเว็บไซต์ที่พัฒนาจากแพลตฟอร์มประมูลสินค้า สู่การขาย ซึ่งสามารถขายได้ทั้งมือหนึ่งและมือสอง อีกทั้งยังมีการพัฒนาระบบหลังบ้านอย่างต่อเนื่องในการวิเคราะห์ตลาด เทรนด์โลก ช่วยออกแบบพฤติกรรมของผู้บริโภคและกำหนดราคาขายได้อย่างเหมาะสมปลีก และยังมีระบบ AI ในการจัดการคลังสินค้า ทำให้ระบบสามารถรู้ใจผู้ซื้อ ทำโปรโมชันและเมนูสินค้าต่าง ๆ ได้ถูกจุด แต่ eBay แม้จะสมัครเป็นผู้ขายได้ฟรีแต่จะมีเก็บค่าธรรมเนียมด้วยถ้าสินค้าถูกขายออกไป ที่สำคัญจะต้องมีบัตรเครดิตด้วย เพื่อใช้ในการสมัคร ลงทะเบียนเป็นผู้ขาย
5. KAIDEE เป็นอีกแพลตฟอร์มที่สามารถเปิดร้านขายสินค้าได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทั่วไปทั้งมือหนึ่งและมือสอง หรือจะเป็นบ้าน รถ คอนโด ใช้งานง่าย ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบราคาและเห็นภาพของสินค้าได้ชัดเจน และขั้นตอนการลงขายสินค้าไม่ยุ่งยาก แค่ไม่กี่นาทีก็ทำให้การฝากขายสินค้าเข้าสู่สายตาลูกค้าได้ ขั้นตอนการสมัคร ก็แค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น KAIDEE ลงในสมาร์ทโฟน หรือจะสมัครผ่านทางเว็บไซต์ก็ได้
6. PANTIP MARKET เป็นแพลตฟอร์มขายของที่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้น แต่ถือเป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าที่สามารถฝากขายสินค้ามือสอง ที่มีตั้งแต่อสังหา พระเครื่อง กล้องถ่ายรูป หรือแม้แต่ของสะสม ตลอดจนยังสามารถขายงาน Service ได้ด้วย เช่น งานเขียน งานรับถ่ายรูป เป็นต้น โดยผู้ขายจะต้องลงทะเบียนโดย Pantip Account หรือสมัครเพื่อยืนยันตัวตนผ่าน Facebook Google หรือ Twitter ก็ได้
7. WELOVESHOPPING เป็นเว็บไซต์ที่เหมือนตลาดซื้อขาย หว่างผู้ซื้อและผู้ขายมาอย่างยาวนาน สามารถฝากสินค้าได้หลากหลาย โดยไม่เสียค่าบริการแม้แต่บาทเดียว ด้วยระบบ We Trust Guarantee ทำให้ผู้ใช้งานสามารถให้คะแนนความพึงพอใจของร้านค้าได้ โดยปัจจุบันมีคนเข้าชมเว็บไซต์ WELOVESHOPPING เพื่อเลือกซื้อสินค้ามากกว่า 300,000 คนต่อวันเลยทีเดียว ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ จะมีให้เลือก 2 แบบคือบุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล สามารถสมัคร กรอกข้อมูลตามขั้นตอน และจะต้องยืนยันตนเองด้วยหมายเลขบัตรประชาชน อัพโหลดสำเนาบัตรประชาชนพร้อมกับระบุในสำเนาว่า “ใช้เพื่อสมัครเปิดร้านค้ากับ Weloveshopping และใช้บริการ True Money เท่านั้น และรอการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน
8. Line MyShop เชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะดาวโหลดแอปฯ LINE ไว้ใช้แชทคุยกันทั้งนั้น ซึ่ง Line MyShop เป็นแอปพลิเคชั่นที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายมาในรูปแบบ Market Place ส่วนวิธีการสมัครก็ไม่ยุ่งยากเพียงแค่ท่านมี Line Official Account ก็สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ฟรี ๆ บน LINE MyShop โดยไม่ต้องเสียค่าบริการรายปีหรือมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแต่อย่างใด
9. Easy Store มาร์เก็ตเพลสที่เพิ่งจะเปิดให้บริการได้ไม่นาน และกำลังได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในบ้านเราเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นพ่อค้าแม่ค้ามากกว่า 30,000 ราย สร้างเครือข่ายการค้าขายในสังคมออนไลน์ได้เป็นอย่างดี หากใครสนใจสามารถทดลองสมัครเข้าไปใช้บริการกันแบบฟรี ๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อศึกษาฟังก์ชั่นการใช้งานได้ก่อน
10. Freewebstore เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ประกอบการจะสามารถออกแบบหน้าตาร้านค้าออนไลน์ในสไตล์ตัวเองได้ และยังสามารถเชื่อมต่อกับสังคมออนไลน์ บริษัทจัดส่งสินค้าได้สะดวกสบาย ซึ่งสามารถลงขายสินค้าได้แบบฟรีๆ หากใครยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ก็ลองเซิร์จหา Freewebstore บนกูเกิลก่อนก็ได้ จากนั้นก็ลองเข้าไปศึกษาการใช้งานก่อนที่จะลงทะเบียนสมัครเป็นร้านค้าออนไลน์ก็ได้
ทั้ง 10 แพลตฟอร์มที่กล่าวมานอกจากจะลงขายของได้แล้ว ก็ยังสามารถเข้าไปเลือกซื้อได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ประกอบการหรือพ่อค้าแม่ค้า เพราะก็มีหลายแพลตฟอร์มที่รองรับการขายแบบขายส่ง สามารถสั่งมาขายต่อได้อีกด้วย
การเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการที่ไม่ต้องแบกต้นทุนมหาศาล จากการขายออนไลน์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย แต่ต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบ การจัดการสต็อค การบริการ การจัดส่งที่รวดเร็ว ความซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้า นอกเหนือจากการสร้างจุดเด่นให้กับร้านและสินค้าของตัวเอง เชื่อเลยว่าการจะประสบความสำเร็จหรืออยู่รอดได้ในยุคนี้อย่างแน่นอน