ทำไมคนไทยบางกลุ่มถูกหลอกง่าย?
วิเคราะห์เชิงสถิติ: ทำไมคนไทยบางกลุ่มถึงตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงได้ง่าย
คนไทยกว่า 36 ล้านคนตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงออนไลน์! วิเคราะห์เชิงสถิติเผยปัจจัยเสี่ยง Gen Y เสียหายหนักสุด ผู้สูงอายุ ภัยร้ายใกล้ตัว รู้ทันกลโกง ป้องกันภัยออนไลน์ สร้างภูมิคุ้มกัน รับมือภัยไซเบอร์
ในยุคดิจิทัลที่การเชื่อมต่อออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาการหลอกลวงที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สถิติล่าสุดชี้ให้เห็นว่าในปี 2566 มีคนไทยกว่า 36 ล้านคนตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจและสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหา นอกจากนี้ ประเทศไทยยังถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีผู้เสียหายจากการหลอกลวงทางออนไลน์มากเป็นอันดับ 4 ของโลก แสดงให้เห็นว่าปัญหานี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในประเทศ แต่ยังเป็นที่จับตามองในระดับนานาชาติด้วย
ข้อมูลจากการสำรวจล่าสุดโดยคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยิ่งตอกย้ำความรุนแรงของปัญหานี้ การศึกษาซึ่งสำรวจประชากรไทยอายุ 15-79 ปี จำนวน 6,973 คน จาก 24 จังหวัด พบว่าในจำนวนผู้ถูกหลอกลวงทั้งหมด มีมากกว่าครึ่งหรือประมาณ 18.37 ล้านคนที่ได้รับความเสียหายจริง ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงขนาดของปัญหาที่กำลังคุกคามสังคมไทยอย่างกว้างขวาง
ที่น่าสนใจคือ กลุ่ม Gen Y ถูกระบุว่าเป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายมากที่สุด ซึ่งอาจขัดกับความเชื่อทั่วไปที่มองว่าคนรุ่นใหม่จะรู้เท่าทันเทคโนโลยีมากกว่า แต่ในความเป็นจริง กลุ่มนี้อาจมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมีกำลังซื้อ ใช้งานออนไลน์บ่อย และอาจมีความมั่นใจมากเกินไปจนประมาท นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่ม Gen Z แม้จะมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันความเสี่ยงออนไลน์มากกว่ากลุ่มอื่น แต่กลับมีอัตราการตกเป็นเหยื่อสูง สะท้อนให้เห็นว่าความรู้เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการป้องกันการถูกหลอกลวง
รูปแบบการหลอกลวงที่พบบ่อยและสร้างความเสียหายมากที่สุดคือการซื้อสินค้าออนไลน์และการชักชวนให้ลงทุน ตามมาด้วยการหลอกรับสมัครงานหรือให้ทำภารกิจออนไลน์ การหลอกว่ามีพัสดุตกค้าง และการปลอมตัวเป็นคนรู้จัก อย่างไรก็ตาม การหลอกลวงให้ทำงานต่างประเทศโดยให้โอนเงินค่าประกันหรือค่าดำเนินการ แม้จะไม่ใช่รูปแบบที่พบบ่อยที่สุด แต่กลับมีอัตราการตกเป็นเหยื่อสูงถึง 35.6% และมีมูลค่าความเสียหายต่อคนมากที่สุดที่ 31,714 บาท
ปัจจัยที่ทำให้คนไทยบางกลุ่มตกเป็นเหยื่อได้ง่ายนั้นมีหลายประการ นอกจากการเข้าถึงเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว ความรู้เท่าทันสื่อและเทคโนโลยีที่จำกัดก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่อาจไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมก็มีส่วน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้คนเปิดรับข้อเสนอที่ดูเหมือนจะช่วยแก้ปัญหาทางการเงินได้
ความรู้ทางการเงินที่จำกัดของคนไทยเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงได้ง่าย แต่ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ในปี 2563 ชี้ให้เห็นว่า 71% ของประชากรไทยมีทักษะทางการเงินดีขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบางกลุ่ม เช่น ผู้สูงอายุ และกลุ่มที่มีความเสี่ยงทางการเงิน ที่ยังขาดทักษะในการจัดการการเงินส่วนบุคคลและการเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน มีเพียง 38% ของประชากรไทยที่มีเงินสำรองเพียงพอ ในกรณีหยุดงานกะทันหันเกิน 3 เดือน ซึ่งชี้ถึงช่องว่างที่ยังคงมีอยู่ในการบริหารจัดการทางการเงิน นอกจากนี้ ลักษณะนิสัยการเชื่อใจคนง่ายของคนไทย โดยเฉพาะเมื่อมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือคนใกล้ชิด ยังคงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้หลายคนตกเป็นเหยื่อการฉ้อโกงได้ง่าย
จากข้อมูลและสถิติทั้งหมดนี้ ชี้ให้เห็นว่าปัญหาการหลอกลวงในประเทศไทยเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน การให้ความรู้ด้านการเงินและเทคโนโลยี การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยออนไลน์ และการเพิ่มมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นในการลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้คนไทยตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงในอนาคต การร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคมในการให้ความรู้และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนทุกกลุ่มวัยจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการรับมือกับภัยคุกคามทางออนไลน์ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในสังคมไทย
ข่าวแนะนำ