TNN วิเคราะห์บทเรียนจากอดีตสู่การแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนที่ 15

TNN

TNN Exclusive

วิเคราะห์บทเรียนจากอดีตสู่การแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนที่ 15

วิเคราะห์บทเรียนจากอดีตสู่การแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนที่ 15

ก.ตร. คัดเลือก ผบ.ตร. คนที่ 15 ภายใต้ พ.ร.บ.ตำรวจใหม่! ใครจะได้นั่งเก้าอี้ "นายพลใหญ่"? หลักเกณฑ์ "อาวุโส-ผลงาน" ใครมาแรง?



การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 15 กำลังจะเกิดขึ้นท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการตำรวจไทย ด้วยการใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 เป็นครั้งแรก หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเผชิญกับความวุ่นวายและความขัดแย้งภายในองค์กรมาตลอดปีที่ผ่านมา


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 เราได้เห็นความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่าง "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. และ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ซึ่งนำไปสู่การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายภายในองค์กรและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจไทยอย่างหนัก จนในที่สุด นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ในขณะนั้น ต้องตัดสินใจย้ายทั้งคู่ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อยุติความขัดแย้ง


บทเรียนจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้นำมาสู่การปรับเปลี่ยนกระบวนการคัดเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ ภายใต้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 ซึ่งมุ่งเน้นความโปร่งใสและเป็นธรรมมากขึ้น โดยกำหนดให้นายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน ก.ตร. เป็นผู้เสนอชื่อ ผบ.ตร. คนใหม่ และให้คณะกรรมการ ก.ตร. เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ แทนที่จะเป็นการเสนอชื่อโดย ผบ.ตร. คนเดิมเช่นที่เคยปฏิบัติมา


นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ยังกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ไว้อย่างชัดเจน โดยต้องมียศพลตำรวจเอกและดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร. หรือจเรตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ที่สำคัญคือการพิจารณาต้องคำนึงถึงทั้งความอาวุโสและความสามารถ โดยเฉพาะในงานสืบสวนสอบสวนและงานป้องกันปราบปราม ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของงานตำรวจ


การกำหนดเกณฑ์การให้คะแนนที่ชัดเจน โดยแบ่งเป็นคะแนนด้านอาวุโส 50% และความรู้ความสามารถอีก 50% นับเป็นความพยายามในการสร้างความเป็นธรรมและลดการใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจของคณะกรรมการคัดเลือก อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่ที่การนำหลักเกณฑ์เหล่านี้ไปปฏิบัติจริงให้เกิดประสิทธิภาพและความโปร่งใสสูงสุด


ณ วันนี้ แคนดิเดตสำหรับตำแหน่ง ผบ.ตร. คนที่ 15 มีเพียง 3 ราย ได้แก่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ ซึ่งแต่ละท่านล้วนมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันไป การตัดสินใจครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่จะส่งผลต่ออนาคตของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นบททดสอบสำคัญของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับนี้ด้วย


ในท้ายที่สุด การแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนที่ 15 ภายใต้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 จึงไม่เพียงแต่เป็นการเลือกผู้นำองค์กรเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ว่าการปฏิรูปตำรวจไทยกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอย่างแท้จริง



ภาพ Freepik / สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง