เปิดไทม์ไลน์: เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำหายปริศนา จากท่าเรือสัตหีบถึงน่านน้ำ 3 ประเทศ

เรือน้ำมันเถื่อนหาย ปริศนา! 3 ลำมูลค่ากว่า 3 แสนลิตรหายไปอย่างไร? เปิดไทม์ไลน์ตั้งแต่ถูกจับกุมจนถึงวันที่หายไป และตำรวจน้ำมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร? ล่าสุดพบเรือแล้ว แต่ของกลางหายไปบางส่วน! ติดตามความคืบหน้าและบทสรุปของคดีนี้ได้ที่นี่!

คดีเรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ หายไปพร้อมน้ำมันกว่า 3 แสนลิตร จากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จากทั้งหมด 5 ลำ คลี่คลายความคืบหน้าแล้ว เมื่อล่าสุดวันที่ 16 มิ.ย. 67 ตำรวจน้ำ สามารถติดตามพบเรือที่หายไปทั้ง 3 ลำ บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย กัมพูชา และเวียดนาม พร้อมควบคุมตัวนำกลับเข้าฝั่งไทยได้เป็นที่เรียบร้อย

ไทม์ไลน์เรือน้ำมันเถื่อนหาย: จากจับกุม สู่ สูญหาย 

เหตุการณ์อื้อฉาวในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 67 เมื่อตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ร่วมกับกรมศุลกากร จับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 5 ลำ ซึ่งลักลอบขนน้ำมันกว่า 3 แสนลิตร บริเวณอ่าวไทย ก่อนประสานตำรวจน้ำ ให้นำเรือของกลางไปจอดควบคุมไว้ที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ

กระทั่งวันที่ 9 มิ.ย. ตำรวจน้ำได้นำเรือของกลางทั้ง 5 ลำ ออกไปจอดทอดสมอไว้ห่างจากท่าเทียบเรือ 100 เมตร โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันเรือเสียหายจากคลื่นลมแรง ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาระหว่างวันที่ 5-9 มิ.ย. และกำหนดให้นำเรือกลับเข้าท่าในเช้าวันที่ 10 มิ.ย.

อย่างไรก็ดี กลับพบว่า ในวันที่ 11 มิ.ย. เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. จากกล้องวงจรปิดของตำรวจยังแสดงให้เห็นเรือของกลางจอดลอยลำอยู่ แต่ต่อมาในเวลาประมาณ 20.10 น. พบว่าไฟของเรือ 3 ลำถูกดับลง ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางแล่นห่างออกไปและหายลับไป จนกระทั่งเช้าวันที่ 12 มิ.ย. เหลือเรือจอดเพียง 2 ลำ เจ้าหน้าที่จึงตรวจพบความผิดปกติ

จับตาคดีเรือน้ำมันเถื่อนหาย: สังคมรอคำตอบความโปร่งใสจากตำรวจ

เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งย้าย พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.5 บก.รน. พร้อมตำรวจน้ำอีก 3 นาย มาช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก. เนื่องจากบกพร่องต่อหน้าที่ปล่อยให้เรือของกลางหายไปจากการควบคุม

พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยว่า จากการประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดวันที่ 16 มิ.ย. 67 พบเรือของกลาง 3 ลำที่หายไป บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย กัมพูชา และเวียดนาม โดยตรวจพบการแก้ไขสีเรือเพื่ออำพราง น้ำมันบางส่วนหายไป และเหลือลูกเรือ 8 คน จากทั้งหมด 16 คน ก่อนควบคุมนำเรือทั้งหมดเข้าฝั่งไทยได้ เตรียมแถลงรายละเอียดคดีอีกครั้งวันที่ 17 มิ.ย. เวลาประมาณ 13.00 น. ที่ จ.สงขลา

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันจะสอบสวนคดีนี้เต็มความสามารถ เอาผิดผู้บงการเบื้องหลังให้ได้ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตำรวจน้ำ ให้รายงานภายใน 7 วัน และสรุปผลภายใน 30 วัน เบื้องต้นเชื่อว่าเข้าข่ายทำให้เสียหายร้ายแรงต่อราชการ ส่วนจะมีความผิดอื่นต้องรอสอบละเอียดอีกครั้ง ขณะที่คลิปลูกเรืออ้างถึงการเกี่ยวข้องของทหารนั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง

คดีนี้ไม่เพียงกระทบภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของตำรวจน้ำ แต่ยังสะท้อนถึงขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนขนาดใหญ่ที่อาจมีเครือข่ายเชื่อมโยงกว้างขวาง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายในการปราบปราม โดยตอนนี้สังคมจะจับตาการทำงานของตำรวจ ว่าจะสามารถสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้อย่างโปร่งใสและเด็ดขาดเพียงใด

ภาพ TNN