TOR ประมูลข้าว 10 ปี รัฐบาลชูธงส่งออก กระตุ้นเศรษฐกิจ!
ข้าว 10 ปี คุณภาพดีจริงหรือ? รัฐบาลเปิด TOR ประมูลข้าว 15,000 ตัน เชื่อมั่นคุณภาพ พร้อมปรับเงื่อนไขเพื่อความโปร่งใส
อคส. ประกาศ TOR ประมูลข้าว 10 ปี 15,000 ตัน พาณิชย์เชื่อมั่นคุณภาพ พร้อมปรับปรุงเงื่อนไขเพื่อความโปร่งใส
องค์การคลังสินค้า (อคส.) ภายใต้การกำกับของกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกประกาศ TOR เปิดประมูลข้าวหอมมะลิในสต๊อกรัฐบาลที่เก็บมานานถึง 10 ปี จำนวน 15,000 ตัน ที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นข้าวที่มาจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลก่อนหน้า
การประมูลในครั้งนี้ แม้จะมีความกังวลจากสาธารณชนเกี่ยวกับคุณภาพของข้าวเก่า แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงมาตรการในการตรวจสอบและรับรองคุณภาพข้าวอย่างละเอียด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดทำ TOR สำหรับการประมูลครั้งนี้ อคส. ได้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขบางประการจากครั้งก่อน ที่ต้องยกเลิกไปเนื่องจากมีเสียงคัดค้านว่าเข้มงวดเกินไป โดยเฉพาะข้อกำหนดให้ผู้เสนอซื้อต้องแสดง Statement บัญชีธนาคาร ซึ่งได้ตัดออกไปแล้วในครั้งนี้
แต่รายละเอียดหลักๆ อื่น เช่น การชี้แจง TOR คุณสมบัติผู้ประมูล ขั้นตอนการยื่นและเปิดซอง การต่อรองราคา การทำสัญญา และการชำระเงิน ยังคงเหมือนเดิม ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานขั้นตอนที่ชัดเจนตามปกติของการประมูล
อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพข้าว TOR ฉบับนี้ยังคงกำหนดให้ผู้ประมูลสามารถดูข้าวได้ด้วยตาเปล่าที่หน้าคลังสินค้าเท่านั้น ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-7 มิ.ย. 2567 โดยไม่สามารถนำตัวอย่างข้าวออกไปตรวจสอบด้วยวิธีอื่นได้ ซึ่งเป็นจุดที่อาจทำให้เกิดข้อกังขาได้ว่า ผู้ประมูลจะสามารถประเมินคุณภาพข้าวได้อย่างแท้จริงหรือไม่
ต่อประเด็นนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ชี้แจงว่า ข้าวที่นำมาประมูลทั้งหมดได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยละเอียดจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ อย่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว ซึ่งผลการตรวจสอบยืนยันว่าข้าวยังอยู่ในสภาพดี เหมาะสำหรับการบริโภคและการค้า จึงมั่นใจได้ในคุณภาพ โดยเอกสารรับรองผลการตรวจสอบนี้น่าจะเพียงพอต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้เข้าร่วมประมูล
อย่างไรก็ดี หากภายหลังมีความจำเป็นต้องปรับเงื่อนไข เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น กระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมจะพิจารณาดำเนินการ
สำหรับกระบวนการประมูล หลังจากผู้สนใจได้ดูข้าวแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการยื่นซองคุณสมบัติในวันที่ 10 มิ.ย. และ อคส.จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 13 มิ.ย. จากนั้นในวันที่ 17 มิ.ย. ผู้ที่ผ่านคัดเลือกจะต้องยื่นซองเสนอราคาพร้อมวางหลักประกัน 2% ของมูลค่าข้าวที่เสนอซื้อ และ อคส.จะเปิดซองเพื่อเจรจาต่อรองราคากับผู้ที่เสนอราคาสูงสุด หากมีผู้เสนอราคาสูงสุดหลายราย จะให้เพิ่มราคาครั้งละ 5,000 บาท จนกว่าจะเหลือผู้ชนะเพียงรายเดียว ซึ่งจะต้องมาลงนามในสัญญาซื้อขายกับ อคส.ภายใน 15 วันทำการถัดไป และวางหลักประกันสัญญาอีก 5% ของมูลค่าข้าว มิฉะนั้นจะถูกริบหลักประกัน 2% ที่วางไปก่อนหน้า และ อคส.จะเจรจากับผู้ที่เสนอราคาสูงรองลงไป
การประมูลครั้งนี้ แม้จะเป็นการระบายข้าวที่เก็บมานาน แต่ก็ถือเป็นโอกาสอันดีในการกระตุ้นการส่งออก โดยเฉพาะไปยังตลาดแอฟริกาที่มีความต้องการข้าวลักษณะนี้ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ ในขณะที่ปริมาณข้าวเพียง 15,000 ตัน ก็ไม่น่าส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในประเทศ แต่กลับอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดข้าวไทยในภาพรวมได้
โดยสรุปแล้ว แม้การประมูลข้าว 10 ปี ของ อคส. จะมีข้อกังวลบ้างในด้านการตรวจสอบคุณภาพ แต่กระทรวงพาณิชย์ก็ได้แสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการสร้างความโปร่งใสและเป็นธรรม พร้อมปรับปรุงแก้ไขหากมีความจำเป็น ทั้งนี้หากการประมูลครั้งนี้ดำเนินไปได้ด้วยดี จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมทั้งในด้านการลดภาระสต๊อก การสร้างรายได้ และการกระชับความเชื่อมั่นต่อคุณภาพของข้าวไทยในสายตาของคู่ค้าทั่วโลก
ภาพ : กระทรวงพาณิชย์
เรียบเรียงโดย : ยศไกร รัตนบรรเทิง บรรณาธฺการ TNN
ข่าวแนะนำ