งบฯ 67 ผ่านฉลุย เปิดศักราช “ปีมังกร” ร้อนแรง?
“เปิดศักราชใหม่ปี 2567 เข้าสู่ปีมังกร ได้ไม่ถึงสัปดาห์ ทั้ง รัฐบาลและฝ่ายค้าน ต้องประเดิมโชว์ฝีมืออภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมาย เมื่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติ 311 ต่อ 177 เสียง รับหลักการวาระแรกไปแบบฉลุย”
หลังใช้เวลา 3 วัน 3 คืน ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ผลปรากฎว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเสียงข้างมาก 311 ต่อ 177 เสียง "รับหลักการ" ในวาระแรก โดยมีผู้งดออกเสียง 4 เสียง หลังจากนี้จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการแปรญัตติของคณะกรรมาธิการวิสามัญ 72 คน ซึ่งมีระยะเวลาภายใน 30 วัน หากไล่เรียงไทม์ไลน์การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2567 หลังผ่านวาระแรก ตามที่รัฐบาลแถลงก่อนหน้านี้ พบว่า
เดือนมกราคม - เมษายน 2567 สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ขึ้นมาพิจารณาปรับแก้
ระหว่างวันที่ 3-4 เมษายน 2567 จะมีการเสนอกลับเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาต่อในวาระที่ 2-3
วันที่ 9-10 เมษายน 2567 ส่งต่อให้วุฒิสภา (สว.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ
วันที่ 17 เมษายน 2567 สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำร่างพ.ร.บ.งบประมาณนำขึ้นทูลเกล้าฯ คาดว่า พรบ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 จะมีผลบังคับใช้ในเดือน พ.ค. ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดจากปัจจัยการเมืองราว 7-8 เดือน
การทำหน้าที่อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นแกนนำ ถือเป็นการประเดิมทำหน้าที่ในบทบาท ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ของ "ชัยธวัช ตุลาธน" ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ภายใต้ยุทธศาสตร์การทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก เริ่มต้นด้วยการอภิปรายตรวจสอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 อย่างเข้มข้น ซึ่งก็แน่นอนว่า ฝ่ายค้านได้พยายามชี้ให้เห็นถึงภาพรวมการจัดงบประมาณปี 2567 ว่าเป็นงบประมาณแบบเบี้ยหัวแตก สะเปะสะปะ ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มีวาระเป้าหมายชัดเจน บางเรื่องก็ไม่ตรงปก
ส่วนข้อมูลการอภิปรายของมือเศรษฐกิจพรรคก้าวไกลอย่าง "ศิริกัญญา ตันสกุล" ก็พยายามชี้ให้เห็นว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ที่จะใช้สำหรับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท รวมถึงนโยบายเติมเงินให้กองทุนเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันอีก 1 แสนล้านบาท พร้อมตอกย้ำว่า มีความเสี่ยงสูงมากหากไม่สามารถออก พ.ร.บ.เงินกู้ฉบับนี้ได้ จะกลายเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจทิพย์ พิสูจน์ว่ารัฐบาลนี้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นมืออาชีพ
ส่วนวาทกรรมทางการเมืองก็พอมีเป็นสีสัน จากการอภิปรายของ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่พยายามเน้นย้ำว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 เป็น “งบประมาณเป็ดง่อย” เพราะงบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท รัฐบาลมีเวลาใช้เงินเพียงแค่ 5 เดือน จากปกติจะใช้ได้ 12 เดือน เท่ากับว่ามีเวลาใช้เงินเพียง 40% ส่วนประสิทธิภาพในการใช้เงิน โดยเฉพาะงบลงทุนของการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีเพียง 70% นั่นจึงทำให้งบนี้เป็ดง่อยไม่สามารถเอาไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามที่รัฐบาลวาดหวัง
ทั้งนี้ การจัดทำงบประมาณปี 2567 ของรัฐบาลเศรษฐา อาจเรียกได้ว่า เป็นการจัดทำงบแบบเปลี่ยนผ่าน คือ เปลี่ยนผ่านจากกรอบงบประมาณที่รัฐบาลชุดก่อนจัดทำไว้ มาเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณให้สอดคล้องกับ 6 ยุทธศาสตร์หลักที่รัฐบาลจะขับเคลื่อนผ่านนโยบายที่เคยแถลงไว้ต่อรัฐสภา ซึ่งเวทีนี้ถือเป็นโอกาสที่ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงข้อซักถามของ ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล ในภาพรวมพร้อมกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ผ่านหลายโครงการน้อยใหญ่ ...นับจากนี้การบ้านข้อใหญ่ที่รอรัฐบาลอยู่เบื้องหน้า ก็คือ นำ พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 ไปขับเคลื่อนแผนงาน ผ่านนโยบายของรัฐบาลที่ได้หาเสียงไว้ให้เกิดเป็นรูปธรรม จับต้องได้ บนความคาดหวังอันสูงยิ่งของประชาชน...และนี่ก็ถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญอีกหย่างหนึ่งว่า อุณหภูมิการเมืองปีนี้... จะเป็น “มังกรไฟ” ที่ร้อนแรง หรือ จะรุ่งเรืองเป็นปี “มังกรทอง” ....
เรียบเรียงโดย ปุลญดา บัวคณิศร
ข่าวแนะนำ