ข่าวดี! ระบบ 'Full Self-Driving' ของ Tesla เปิดให้ขอใช้งานเพิ่มแล้ว!
Tesla เปิดระบบซอฟต์แวร์เบต้า 'Full Self-Driving' ให้ผู้ขับขี่ได้ใช้งานกันมากขึ้น แม้ว่าคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติจะแสดงความกังวลต่อเรื่องนี้ก็ตาม
Tesla เตรียมให้ผู้ใช้งานกดขอใช้ระบบซอฟต์แวร์รุ่นเบต้าของโปรแกรม "Full Self-Driving" (FSD) โดยผู้ใช้งานจะต้องผ่านการประเมินความปลอดภัยจาก Tesla ก่อนจึงจะได้สิทธิ์ในการใช้งาน แต่ถึงแม้นี่จะเป็นข่าวดีของผู้ขับขี่ Tesla เพียงใด คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติ (National Transportation Safety Board) กลับดูจะไม่ได้ยินดีด้วยสักเท่าไหร่นัก โดยออกมาแสดงความกังวลถึงเรื่องนี้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
ระบบซอฟต์แวร์เบต้าของโปรแกรม "Full Self-Driving" (FSD) หรือระบบขับเคลื่อนด้วยตนเอง เป็นระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติแบบไม่เต็มตัว (ผู้ใช้งานยังคงต้องควบคุมการขับขี่ตลอดเส้นทาง) โดยการขอเข้าใช้งานนั้น ผู้ใช้งานจะต้องกดขอผ่านปุ่ม “request” บนหน้าจอของ Tesla จากนั้นระบบจะทำการประเมินความปลอดภัยจากเกณฑ์ประเมิน 5 ข้อ ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่พิจารณาถึงความน่าจะเป็นของการขับขี่ที่อาจส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุในอนาคต หากผ่านเกณฑ์จึงจะได้สิทธิ์ใช้งาน
โดยระบบจะดึงเอาข้อมูลจากเซ็นเซอร์บนรถ Tesla ของคนขับ มาจัดทำเป็นตารางคิดคะแนนตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เกณฑ์ที่พิจารณาได้แก่ การเตือนการชนด้านหน้าในระยะ 1,000 ไมล์ (1,609 กิโลเมตร) จะเป็นการนับว่าในทุก ๆ 1,000 ไมล์ระบบเคยแจ้งเตือนการชนเรากี่ครั้ง?, การเบรกอย่างแรง, การเลี้ยวอย่างฉับพลัน, การขับติดตามในระยะไม่ปลอดภัย เช่น ขับจ่อคันหน้าเกินไปและใช้ความเร็วที่ไม่เหมาะสม และการฝ่าฝืนระบบ Autopilot ซึ่งเป็นระบบช่วยเตือนหากเราเอามือออกจากพวงมาลัยหรือไม่ตั้งใจขับรถ ระบบก็จะเตือนด้วยภาพและเสียงทั้งสิ้นสามครั้ง การประเมินครั้งนี้ก็จะนับเช่นกันว่าเราโดนเตือนไปแล้วกี่รอบ
อย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีรายงานระบุว่าจะต้องทำคะแนนได้เท่าไหร่จึงจะได้สิทธิ์ใช้ระบบ FSD แต่ Tesla ได้เปิดเผยว่าผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ได้คะแนนอยู่ที่ 80 จาก 100 คะแนน และผู้ขับขี่จะต้องรักษาคะแนนให้อยู่ในเกณฑ์ “ปลอดภัย” เป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์จึงจะเปิดใช้งานระบบ FSD รุ่นเบต้าได้
การอัปเดตระบบ FSD รุ่นเบต้ารอบนี้มาพร้อมฟีเจอร์ "Autosteer on city streets" (การบังคับเลี้ยวอัตโนมัติบนถนนในเมือง) ซึ่งถึงแม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่มันจะช่วยนำทางไปตามถนนต่าง ๆ ผ่านยานพาหนะอื่น ๆ นักปั่นจักรยาน และผู้คน โดยที่คนขับไม่ต้องขยับพวงมาลัยด้วยตนเอง แต่ยังคงต้องควบคุมพวงมาลัยและให้ความสนใจกับการขับรถอย่างเต็มที่ ตามข้อบังคับของระบบ FSD
อย่างไรก็ตามการออกมาเปิดให้ใช้งานระบบ FSD ดูจะไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีสำหรับ National Transportation Safety Board สักเท่าไหร่ โดย Jennifer Homendy ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า Tesla ควรจัดการกับ "ปัญหาด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน" ก่อนที่จะขยายการเปิดใช้งานระบบ FSD และกล่าวว่าการที่ Tesla เรียกระบบนี้ว่า "Full Self-Driving" เป็นการทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ทำให้คนอื่นใช้งานระบบในทางที่ผิด และเป็นการกระทำของบริษัทที่ “ไม่มีความรับผิดชอบ” อย่างไรก็ตามคณะกรรมการ NTSB ก็ทำได้เพียงแค่ตรวจสอบและให้ข้อแนะนำเท่านั้น แต่ไม่มีอำนาจในการควบคุมแต่อย่างใด
ส่วนทาง Elon Musk ก็ได้ออกมาตอบโต้หลังจากที่ @Teslarati เว็บไซต์ที่อัปเดตข่าวสารของ Tesla ได้ออกมาทวีตบทความชื่อว่า “Does Tesla have a fair chance after NTSB Chief comments?” (Tesla ยังคงมีโอกาสที่ยุติธรรมหรือไม่หลังจากที่ประธาน NTSB แสดงความคิดเห็น?) ซึ่ง Musk เองก็ได้ตอบกลับด้วยการทวีตลิงก์ไปยังหน้า Wikipedia ของ Homendy แต่ก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
สำหรับระบบ FSD ทาง Tesla เคยเปิดขายไปแล้วก่อนหน้านี้ในราคา 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 335,715 บาท) แบบเหมาจ่าย และแบบสมาชิกรายเดือนในราคา 199 ดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 6,680.73 บาท) และสำหรับผู้ที่ซื้อแพ็คเกจ Enhanced Autopilot ได้ราคาพิเศษ 99 ดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 3323.58 บาท) ดังนั้นถึงแม้ว่าการออกมาอัปเกรดระบบ FSD ครั้งนี้จะยังเป็นแค่รุ่นเบต้า และคงไม่ได้เป็นระบบขับเคลื่อนไร้คนขับ 100% สมชื่อ แต่สำหรับแฟน ๆ ที่เสียเงินรอไปล่วงหน้าก็น่าจะรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมอีกนิดที่ได้เห็นความคืบหน้าของระบบนี้บ้าง
ขอบคุณข้อมูลจาก
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67