รู้หรือไม่ ทั่วโลกจะมีรถ EV มากกว่า 85 ล้านคันในปี 2025
การ์ทเนอร์ (Gartner) คาดการณ์ว่าทั่วโลกจะมีปริมาณรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จำนวน 85 ล้านคัน จากทั้งรถยนต์, รถบัส, รถตู้ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ ภายในสิ้นปี 2025 นี้
การ์ทเนอร์ (Gartner) บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมต่าง ๆ เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2025 จะมีปริมาณรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกจำนวน 85 ล้านคัน วิ่งบนท้องถนน ครอบคลุมประเภทต่าง ๆ อาทิ รถยนต์, รถบัส, รถตู้ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ พร้อมการคาดการณ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทยจะมีถึง 78,000 คัน ทั่วประเทศ
ข้อมูลจำนวนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกและในไทย
ตามรายงานของการ์ทเนอร์ระบุว่า สิ้นปี 2025 ปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) จะมีจำนวนเกือบ 62 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากปี 2024 ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ช้ากว่าเล็กน้อยและปีหน้าจะมีปริมาณอยู่ที่ 23 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากปี 2024
ตารางที่ 1 ปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจำแนกตามประเภทรถ ระหว่างปี 2023-2025
ประเภทรถ EV | ปี 2023 | ปี 2024 | ปี 2025 |
BEV | 32,628,884 | 45,872,824 | 61,860,183 |
PHEV | 13,402,907 | 18,159,560 | 23,283,006 |
รวม (หน่วย: คัน) | 46,031,791 | 64,032,383 | 85,143,189 |
ข้อมูลจาก การ์ทเนอร์ เดือนตุลาคม 2024
ในขณะที่จำนวนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยจะมีจำนวนรวมมากกว่า 77,800 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 49 จากปี 2024 โดยรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่จะมีสัดส่วนร้อยละ 74 และมียอดรวมทั้งหมดกว่า 57,900 คัน
ตารางที่ 2 ปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจำแนกตามประเภทรถ ระหว่างปี 2023-2025
ประเภทรถ EV | ปี 2023 | ปี 2024 | ปี 2025 |
BEV | 24,720 | 38,135 | 57,926 |
PHEV | 9,392 | 13,943 | 19,880 |
รวม (หน่วย: คัน) | 34,112 | 52,078 | 77,805 |
ข้อมูลจาก การ์ทเนอร์ เดือนตุลาคม 2024
คาดการณ์การเติบโตของปริมาณรถ EV ในเอเชีย
การคาดการณ์ตามรายงานระบุว่า จีนจะเป็นประเทศที่มีความต้องการรถยนต์ EV ทุกประเภทรวมกันมากกว่าส่วนที่เหลือในโลกไปอีกทศวรรษ ส่วนความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปและอเมริกาเหนือคาดว่าจะคิดเป็นร้อยละ 36 ของยอดรวมรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2024 หรือประมาณ 23 ล้านคัน ในขณะที่ปี 2025 จะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งอยู่ตามท้องถนนในจีน 49 ล้านคัน รวมถึงในทวีปยุโรป 20.6 ล้านคัน และในทวีปอเมริกาเหนือ 10.4 ล้านคัน
แม้ว่าความต้องการจะสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่รายงานให้ความเห็นว่า ความพยายามในการรีไซเคิลอย่างจริงจังเพื่อใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ที่ผ่านการใช้งานแล้ว, การนำเศษวัสดุจากกระบวนการผลิตมาใช้ใหม่ และรวมถึงความพยายามของสหภาพยุโรปในการบังคับให้มีการรีไซเคิลแบตเตอรี่ จะส่งผลให้ภายในปี 2030 หรือประมาณ 6 ปี ข้างหน้า ผู้ผลิตรถยนต์จะสามารถรีไซเคิลแบตเตอรี่รถ EV ได้สูงร้อยละ 95 ซึ่งจะช่วยลดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญของรถ EV อย่างแบตเตอรี่ได้
โจนาธาน ดาเวนพอร์ท ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า "ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปีหน้านั้น หลัก ๆ มาจากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นในจีนร้อยละ 58 และยุโรปร้อยละ 24 ซึ่งเมื่อนับรวมกันแล้วคิดเป็นร้อยละ 82 ของจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดทั่วโลก ในขณะที่ความพยายามรีไซเคิลแบตเตอรี่และความพยายามอื่น ๆ ก็อาจช่วยลดความจำเป็นในการขุดแร่เพิ่มเติมได้ และอาจช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าในภาพรวมของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการลดราคาแบตเตอรี่ลง และแบตเตอรี่จะไม่ถูกกำจัดด้วยวิธีที่ผิดจริยธรรมหรือถูกนำไปทิ้งในหลุมฝังกลบอีกด้วย"
ข้อมูลและภาพ Gartner (ประเทศไทย)
ข่าวแนะนำ