Starlink เปลี่ยนโลกการบิน กับ 13 ข้อ สู่อนาคตอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบิน
TNN Tech ไล่เรียงความเป็นมาการให้บริการอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินสู่ยุคของ Starlink อินเทอร์เน็ตดาวเทียมของ Elon Musk
1. ปกติแล้วเวลาขึ้นเครื่องบิน ลูกเรือจะให้เราตัดสัญญาณ 5G/4G เข้าโหมดเครื่องบิน ซึ่งทำให้เราเล่นอินเทอร์เน็ตไม่ได้ เว้นแต่ว่าจะใช้บริการอินเทอร์เน็ตบนเครื่องบิน
2. อินเทอร์เน็ตบนเครื่องมาจากไหน ? คำตอบคือเครื่องบินจะต้องติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากดาวเทียม ก่อนกระจายสัญญาณในเครื่องอีกทีหนึ่ง
3. สายการบินจะต้องจ่าย 6 - 10 ล้านบาท/เครื่อง สำหรับค่าติดตั้งอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายสำหรับเชื่อมต่อบริการ ซึ่งทำให้สายการบินมาเก็บค่าบริการจากคนที่ต้องการใช้อีกที
4. อย่างไรก็ตาม อินเทอร์เน็ตดาวเทียมก่อนหน้านี้มีความเร็วต่ำ และค่าใช้จ่ายสูง ทำให้คนที่ใช้อินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินนิยมใช้เพื่อการส่งข้อความ อีเมล หรืออัปเดตสำคัญ
5. แต่การมาถึงของ Starlink อินเทอร์เน็ตดาวเทียม “ราคาถูก” จากมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ก็ทำให้เรื่องทั้งหมดนี้เปลี่ยนไป
6. Starlink มีบริการสำหรับอากาศยานโดยเฉพาะ โดยบอกว่าสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วดาวน์โหลด 40 - 220 MB/s
7. ความเร็วที่ว่านี้ไม่ใช่แค่คนเดียวใช้แล้วหารกัน แต่หมายถึงทุกคนบนเครื่องก็ได้ความเร็วนี้เหมือนกัน
8. นั่นหมายความว่า เราจะดูหนัง ซีรีส์ เล่นเกม คุยประชุมออนไลน์ และใช้ชีวิตปกติที่มีอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาได้
9. และในฝั่งผู้ให้บริการ มีค่าบริการแบบรายเดือนแบบไม่จำกัดปริมาณเริ่มต้น 340,000 บาท/เดือน/จุดเชื่อมต่อ (Terminal)
10. ความแตกต่างทั้งในแง่ความเร็วและต้นทุนนี้เอง ที่ทำให้สายการบินบางสาย ตัดสินใจว่าจะนำบริการ Starlink มาเป็นจุดขายใหม่ของสายการบิน
11. เริ่มจาก Hawaiian Airlines สายการบิน Low cost ที่ให้บริการฟรีแล้ว ต่อด้วย Air New Zealand ที่ร่วมวงด้วยเช่นกัน
12. เมื่อการแข่งขันเริ่มมีกระแส United Airlines ยักษ์ใหญ่จากอเมริกาจึงประกาศว่าจะให้บริการ Starlink ในปี 2025 และล่าสุดกับ Qatar Airways ที่จะให้บริการในปีหน้าเช่นกัน และทุกสายการบิน ต่างให้บริการแบบฟรี !!!
13. ทั้งหมดนี้อาจเป็นการแข่งขันแบบใหม่นี้กำลังเกิดขึ้นกับสายการบินทั่วโลก แต่ยังไม่มีบทวิเคราะห์ใดที่พูดถึงอนาคตว่าบริการความบันเทิงบนเที่ยวบิน รวมถึงค่าตั๋วเครื่องบินจะเป็นอย่างไรเช่นกัน
ข้อมูล CBS, Phocus Wire, CNN
ข่าวแนะนำ