แทนซาเนียติดตั้งเครื่องตรวจสุขภาพต้นกาแฟรับมือโลกร้อน
นักวิจัยแทนซาเนีย หาวิธีรับมือกับการทำเกษตรในภาวะโลกร้อน ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับสุขภาพของต้นกาแฟ เพื่อหาวิธีรับมือกับการเจริญเติบโตของต้นกาแฟที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
ทีมนักวิจัยจากองค์กรในอิตาลี ลงพื้นที่ในประเทศแทนซาเนีย (Tanzania) เพื่อพัฒนาวิธีตรวจสอบสุขภาพของ “ต้นกาแฟ” ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เซนเซอร์พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อทำความเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อสุขภาพของต้นกาแฟในภูมิภาคอย่างไร และหาทางดูแลให้ต้นกาแฟเหล่านี้ให้ผลผลิตที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อุปกรณ์เหล่านี้ใช้เทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT ซึ่งหมายถึงเทคโนโลยีที่ช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อถึงกันผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดความสะดวกในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์กับระบบ และช่วยให้นักวิจัยได้รับข้อมูลอัปเดตด้านสุขภาพ และความชุ่มชื้นของต้นไม้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ตัวออุปกรณ์ที่ว่า ยังช่วยตรวจสอบด้านปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความชื้น และการมีอยู่ของเชื้อโรคในไร่กาแฟได้ โดยทีมวิจัยมีเป้าหมายที่จะนำข้อมูลที่ได้ มาวางแผนกลยุทธ์เพื่อเพิ่มผลผลิตที่ยั่งยืนให้ไร่กาแฟนี้
สำหรับโครงการนี้ ดำเนินการโดยศูนย์วิจัยเอสเปรสโซของประเทศอิตาลี (Accademia del Caffè Espresso) ซึ่งโครงการในประเทศแทนซาเนีย นับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มีการนำเทคโนโลยีดังกล่าว มาใช้ในไร่กาแฟ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีการใช้งานในไร่องุ่น และไร่มะกอกมาแล้ว
ซึ่งสิ่งที่ทำให้องค์กรให้ความสำคัญกับการวิจัยในไร่กาแฟนี้ก็เพราะว่า ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบอย่างมากต่อรสชาติของกาแฟ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศแทนซาเนีย ประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก
โดยปัจจุบัน ทีมวิจัยมีแผนการพัฒนาระบบอัจฉริยะ ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะส่งการแจ้งเตือนที่สำคัญ ไปยังเกษตรกรให้ดำเนินการต่าง ๆ ได้ทันท่วงที โดยขณะนี้พวกเขากำลังอยู่ในช่วงการฝึกอัลกอริทึมให้เรียนรู้การทำงานของอุปกรณ์ เพื่อนำไปสู่การแจ้งเตือนอัตโนมัติได้ในอนาคต
ทีมวิจัยจึงหวังว่า การพัฒนาในโครงการนี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์กับผู้ปลูกกาแฟทั่วโลกแล้ว จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้ปลูกพืชอื่น ๆ ที่กำลังพยายามรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อีกด้วย
ข้อมูลจาก reutersconnect
ข่าวแนะนำ