แผ่นดินไหวไต้หวัน อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานชิปโลก
#แผ่นดินไหวไต้หวัน รุนแรงสุดในรอบ 25 ปี มีแนวโน้มที่จะทำให้อุปทานส่วนประกอบต่าง ๆ ของเทคโนโลยี เช่น แผงจอแสดงผลและเซมิคอนดักเตอร์ มีความตึงตัว
นักวิเคราะห์กล่าวว่าแผ่นดินไหวในไต้หวันขนาดความรุนแรง 7.4 ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2024 เวลา 06.58 น. ตามเวลาประเทศไทย มีแนวโน้มที่จะทำให้อุปทานส่วนประกอบต่าง ๆ ของเทคโนโลยี เช่น แผงจอแสดงผลและเซมิคอนดักเตอร์ มีความตึงตัว
ทั้งนี้ เกาะไต้หวันถือว่ามีบทบาทสำคัญมากในห่วงโซ่อุปทานชิประดับโลก โดยเป็นที่ตั้งของบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่อย่าง TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co ซึ่งผลิตชิปให้กับบริษัทใหญ่อย่างแอปเปิล (Apple) และเอ็นวิเดีย (Nvidia) นอกจากนี้ยังมีบริษัทผู้ผลิตชิปรายเล็กอีกจำนวนหนึ่ง เช่น UMC, Vanguard International Semiconductor และ Powerchip Semiconductor Manufacturing
นักวิเคราะห์ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ผู้ผลิตชิปในไต้หวันได้มีมาตรการเตรียมรับมือเกี่ยวกับแผ่นดินไหวมานานหลายทศวรรษแล้ว บางบริษัทใช้ระบบปิดอัตโนมัติเพื่อลดความเสียหายต่อเครื่องมือและการผลิต ด้าน แดน ฮัทเชสัน (Dan Hutcheson) รองประธานบริษัทวิจัยเทคอินไซต์ (TechInsights) ของแคนาดากล่าวว่า เครื่องมือที่ถูกปิดอัตโนมัตินี้ อาจใช้เวลาไม่เกิน 36 - 48 ชั่วโมง เพื่อนำมาตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง แต่มันก็อาจส่งผลกระทบต่อรายได้รายไตรมาสของบริษัทต่าง ๆ
ซึ่งสำหรับโรงงานผลิตชิป แม้ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว แต่บริษัทหลายแห่งก็กล่าวว่าได้อพยพอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงปิดโรงงานบางแห่งเพื่อตรวจสอบแล้ว
TSMC ชี้ว่าหลังจากแผ่นดินไหว งานของบริษัทก็ถูกระงับไป แต่หลังจากผ่านไปเพียง 10 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว บริษัทก็ได้ออกมากล่าวว่า ได้กลับมาใช้งานเครื่องจักรผลิตชิปเกือบ 70% แล้ว ด้าน Nvidia ซึ่งพึ่งพาการผลิตชิปจาก TSMC กล่าวว่าได้ปรึกษากับพันธมิตรแล้ว และคาดว่าแผ่นดินไหวจะไม่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของบริษัท
นักวิเคราะห์ของธนาคารบาร์เคลย์ (Barclays) จากอังกฤษ กล่าวว่าโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่มีความซับซ้อนสูงบางโรงงานจำเป็นต้องทำงานได้อย่างราบรื่นตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ดังนั้นการหยุดชะงักจากแผ่นดินไหวนี้ อาจส่งผลให้ราคาชิปสูงขึ้นได้ ซึ่งอาจส่งผลสืบเนื่องไปยังการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ทั้งประเทศเศรษฐกิจที่เน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ต้นน้ำ เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลี รวมถึงประเทศที่เน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ เช่น จีนและเวียดนาม รายงานยังระบุด้วยว่าสินค้าคงคลังที่ลดลง อาจทำให้ผู้ผลิตชิปชาวไต้หวันและเกาหลีใต้ขึ้นราคาชิปได้
บริษัทวิจัยเทรนด์ฟอร์ซ (TrendForce) คาดว่าการจัดส่งแผงโทรทัศน์ (TV Panel) จะได้รับผลกระทบเช่นกัน แผ่นดินไหวอาจทำให้อุปทานตึงตัว และราคาแผงโทรทัศน์อาจเพิ่มสูงขึ้นในเดือนเมษายน แต่จะไม่ส่งผลกระทบในระยะยาว ยกเว้นแต่ว่าโณงงานผลิตต่าง ๆ จะต้องหยุดการดำเนินการมากกว่า 1 สัปดาห์
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ Reuters
ข่าวแนะนำ