เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy S23 vs S24 มีอะไรใหม่บ้าง
เปรียบสมาร์ตโฟนเรือธงตัวเริ่มต้นของ Samsung กับ Galaxy S23 และ S24 Series เปิดตัวห่างกัน 1 ปี มีอะไรใหม่บ้าง
ซัมซุงเพิ่งเปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์เรือธงอย่าง Samsung Galaxy S24 อย่างเป็นทางการ ซึ่งมี 3 รุ่นคือ S24 S24+ และ S24 Ultra แน่นอนว่าผ่านมาหลังจากเปิดตัว S23 Series มา 1 ปี มันย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่มีอะไรใหม่บ้าง และมันคุ้มค่าไหมที่จะอัพเกรด ? ครั้งนี้ TNN Tech จึงนำตัวเริ่มต้นอย่าง S23 และ S24 มาเปรียบเทียบกัน
ด้านดีไซน์ภายนอกจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ S23 จะมีลักษณะโค้งมนกว่า ในขณะที่ S24 อัพเกรดวัสดุประกอบเป็น Armor Aluminum ซึ่งเป็นอะลูมิเนียมที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาร์ตโฟน ดังนั้นมันจึงแข็งแกร่งกว่า S23 ที่เป็นอะลูมิเนียมธรรมดา ด้านหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ความสว่างมากขึ้นกว่าเดิม 48% นอกจากนี้ยังมี มีเทคโนโลยี Vision Booster ช่วยเพิ่มการแสดงผลเมื่อแดดจัด จึงสามารถใช้งานกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี
ด้านกล้องยังคงมาพร้อมกับฮาร์ดแวร์กล้องตัวเดิม แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ S24 มี AI เข้ามาช่วยทำงาน จึงสามารถถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีมากขึ้น รวมถึง มีระบบการซูมด้วย AI ด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะถูกใจสายโซเชียลก็คือ Samsung Galaxy S24 ทุกรุ่นจะสามารถถ่ายภาพและวิดีโอลงอินสตาแกรมได้ในคุณภาพที่สูงขึ้น หากใครที่บอกว่าแอนดรอยด์ถ่ายวิดีโอลง IG ไม่ชัด อาจจะต้องคิดใหม่แล้ว
แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อย จาก 3900mAh เป็น 4000mAh ด้านชาร์จไวผ่านสาย USB ไทป์ C เท่าเดิมคือ 25W แต่ชาร์จไร้สายเพิ่มขึ้นจาก 10W เป็น 15W
สิ่งที่น่าประทับใจมากคือ Galaxy S24 จะสามารถอัปเกรดระบบปฏิบัติการและแพตช์รักษาความปลอดภัยเป็นเวลานานถึง 7 ปี จึงถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยลดขยะได้
แต่สิ่งที่โดดเด่นขึ้นมามาก ๆ คือ Galaxy AI นั่นเอง ซึ่ง S24 จะเพิ่มการขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล NPU (Neural Processing Unit) ที่ทำให้สามารถรัน Galaxy AI ได้จากตัวเครื่องเลย ทำให้เปิดใช้งานฟังก์ชั่นเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างเต็มที่ และสามารถเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย เช่น
เช่น
- การเป็นผู้ช่วยแปลภาษาแบบเรียลไทม์ สามารถพูดเพื่อให้สมาร์ตโฟนออกเสียงแปลเป็นอีกภาษา เป็นการก้าวข้ามอุปสรรคด้านภาษาอีกขั้น
- ฟังก์ชัน Circle to Search ซึ่งก็จะเป็นการเลือกสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอ ให้ Google ค้นหาได้อย่างทันที เช่น เมื่อเล่น Instagram อยู่ แล้วเจอเสื้อยืดที่ถูกใจ ก็สามารถวงกลมเสื้อตัวนั้น เพื่อให้กูเกิลหาข้อมูลให้ได้เลย ไม่เพียงรูปภาพ ยังสามารถใช้ได้กับข้อความและอื่น ๆ ด้วย
- Note Assist หรือผู้ช่วยจัดการข้อมูล ซึ่ง AI ก็จะสามารถจัดการข้อมูลที่เราเขียนอย่างลวก ๆ ให้จัดหมวดหมู่ เรียงลำดับความสำคัญต่าง ๆ นับว่าประหยัดเวลาได้อย่างมาก
- ฟังก์ชันสำหรับช่วยและแก้ไขรูปภาพและวิดีโอ ซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่ดียิ่งขึ้น
ฯลฯ
เหมือนจะเปลี่ยนแปลงไม่มาก แต่เมื่อพิจารณาด้าน AI แล้ว ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มขีดจำกัดของสมาร์ตโฟนมากขึ้น ดังนั้นก็อาจจะมองว่ามันพัฒนาขึ้นมากได้ในอีกทางหนึ่ง
ข่าวแนะนำ