TNN เยอรมนีปลดระวางเรือดำน้ำกองทัพหนัก 500 ตัน เตรียมขนย้ายสู่พิพิธภัณฑ์ไกล 500 กม.

TNN

Tech

เยอรมนีปลดระวางเรือดำน้ำกองทัพหนัก 500 ตัน เตรียมขนย้ายสู่พิพิธภัณฑ์ไกล 500 กม.

เยอรมนีปลดระวางเรือดำน้ำกองทัพหนัก 500 ตัน เตรียมขนย้ายสู่พิพิธภัณฑ์ไกล 500 กม.

เยอรมนีปลดระวางเรือดำน้ำ U-17 ออกจากกองทัพ เตรียมขนย้ายเป็นระยะทางกว่า 500 กม. ไปยังพิพิธภัณฑ์ทางตอนใต้

ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เช่นเดียวกับเรือดำน้ำ U-17 จากประเทศเยอรมนี ที่หลังจากทำงานต่อเนื่องในกองทัพเรือเยอรมนีมานานกว่า 40 ปี เรือดำน้ำลำนี้ก็ถูกปลดอาวุธและปลดประจำการ และจะถูกส่งไปยังพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีที่เมืองซินส์ไฮม์ ทางตอนใต้ของเยอรมนี ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลบอลติกเข้าไปในแผ่นดินประมาณ 600 กิโลเมตร 


ขณะที่โจเอิร์น เชียร์ฮอร์น (Joern Schierhorn) ผู้บัญชาการคนสุดท้ายของเรือในช่วงปี 2005-2010 กำลังมองดูเรือดำน้ำหนัก 500 ตันที่เขาเคยทำหน้าที่เป็นกัปตัน ค่อย ๆ ถูกเลื่อนลงมาจากปั้นจั่นขนาดใหญ่ยักษ์ ในอู่ซ่อมเรือที่เมืองคีล ทางตอนเหนือสุดของประเทศเยอรมนี


"จากเวลา 40 ปีที่ประจำการ ทุกคนในที่นี่ มีความทรงจำเกี่ยวกับเรือดำน้ำลำนี้อยู่ ทุก ๆ สถานการณ์ และบทสนทนา แม้แต่เพื่อนทุกคน มันเกี่ยวข้องกับเรือดำน้ำ U17 เสมอ มันเป็นเจ้าเหล็กชิ้นนี้เสมอ" เชียร์ฮอร์น กล่าวขณะที่ช่างเทคนิคหลายคนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางครั้งสุดท้ายของเรือดำน้ำยักษ์ใหญ่ลำนี้ ไปยังที่อยู่ใหม่ของมัน


ด้านโฮลเกอร์ วอชเลเบน หนึ่งในทีมงานของพิพิธภัณฑ์ที่จะเก็บเรือดำน้ำลำนี้เข้าสู่วาระการดูแลอธิบายว่า  ด้วยความยาว 50 เมตร ความสูง 9 เมตร และน้ำหนักมหาศาลกว่า 500 ตัน ทำให้การปลดระวางแท่งเหล็กลำนี้เพื่อนำไปสู่พิพิธภัณฑ์ในระยะทางกว่า 500 กิโลเมตรไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อมั่นว่าทีมขนส่งจะสามารถจัดการกับเรือดำน้ำลำนี้ได้ 


เยอรมนีปลดระวางเรือดำน้ำกองทัพหนัก 500 ตัน เตรียมขนย้ายสู่พิพิธภัณฑ์ไกล 500 กม.

ที่มาของรูปภาพ  Technik Museen SInsheim Speyer


“เรามีประสบการณ์เกี่ยวกับการขนส่งมากมายอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น เรานำเครื่องบินคองคอร์ด ไปส่งที่ซินส์ไฮม์ หรือขนกระสวยอวกาศไปยังเมืองสเปเยอร์ ซึ่งในกรณีนี้ เราย่อมเข้าใจดีอยู่แล้วว่าเราควรทำอย่างไร” วอชเลเบนระบุ 


เขายังเสริมว่า ด้วยน้ำหนัก ความยาว และความสูงของมัน ทำให้ในระหว่างการขนส่ง ต้องคำนึงว่าจะไม่สามารถขับลอดใต้สะพานทุกแห่งได้ ทั้งนี้ เนื่องจากน้ำหนักที่มีอยู่มาก ทีมขนส่งจึงไม่สามารถขับข้ามสะพานทุกแห่งได้โดยไม่ทำลายสะพาน จึงต้องใช้การวางแผนอย่างรัดกุมและผ่านการคำนวณอย่างถี่ถ้วน ซึ่งทำให้การขนส่งครั้งนี้มีความพิเศษยิ่งขึ้นไปอีก


แม้ว่าการขนส่งมีกำหนดจะเริ่มในวันเสาร์ ที่ 29 เมษายนนี้ แต่การเดินทางที่ค่อนข้างไกลสำหรับสิ่งของชิ้นใหญ่ขนาดนี้ จะทำให้เรือดำน้ำ U-17 มาถึงพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีที่เมืองสเปเยอร์ในช่วงปลายเดือนหน้า โดยคาดว่าจะมาถึงในวันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม


ทั้งนี้ การขนส่งไม่ได้เกิดขึ้นบนถนนเพียงอย่างเดียว ในช่วงแรกของการเดินทางเรือดำน้ำ U17 จะถูกขนย้ายข้ามทะเลบอลติกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่มันจะมาถึงบ้านหลังสุดท้ายที่ไร้ทางออกสู่ทะเล เรือดำน้ำลำนี้จะถูกจัดเตรียมและบูรณะเพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับผู้เข้าเยี่ยมชมต่อไป


ที่มาของข้อมูล Ga.de, Reuters

ที่มาของรูปภาพ Frank Molter



ข่าวแนะนำ