สปสช.ดำเนินคดีแล้วหลายราย ตระเวนหาหมอ นำยาขายออนไลน์
"สมศักดิ์"ระบุผู้ป่วยบัตรทองตระเวนหาหมอนำยาไปขายผ่านออนไลน์ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกก่อนหน้านี้ สปสช.เคยดำเนินคดีไปแล้วหลายรายในลักษณะที่คล้ายกัน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึง กรณี ที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์ ในการนำยาพ่นจมูกภูมิแพ้ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ สิทธิบัตรทอง มาขายในออนไลน์ ว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้วโดยเป็นเรื่อง ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือ สปสช.ต้องไปตรวจสอบ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสปสช.ได้ลงโทษและดำเนินคดีไปแล้วหลายรายในกรณีที่คล้ายกัน หลังจากนี้จะต้องมีระบบตรวจสอบที่เข้มงวดและไม่มีข้อผิดพลาด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุด้วยว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจำนวนมาก ที่เข้าสู่การรักษามากกว่า 400 ล้านครั้ง โดยกระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินนโยบายเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยในระบบลงทั้งการส่งเสริมป้องกันโรคไม่ติดต่อ เพื่อลดภาระงานการดูแลของบุคลากรสาธารณสุข ทำให้บุคลากร มีเวลาในการตรวจสอบ รายละเอียดต่างๆของผู้ป่วยได้ดีมากขึ้น
อย่างไรก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ได้ทราบปัญหาในระบบสาธารณสุข จะได้นำมาเป็นข้อมูลในการหารือและแก้ไขปัญหาในการออกแนวทางต่างๆร่วมกัน เช่น ปัญหาแรงงานข้ามชาติในการเข้ามารักษาในไทย ซึ่งจะมีการประชุมแนวทางในสัปดาห์หน้า
ด้านทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบุว่า ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เป็นระบบที่ถูกออกแบบให้ทำหน้าที่เป็นหลักประกันและสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับประชาชน หากเจ็บป่วยไม่ว่าเล็กน้อย หรือป่วยหนัก สามารถเข้าถึงการรักษาได้โดยไม่ต้องมีอุปสรรคทางการเงิน งบประมาณกองทุนทุกบาททุกสตางค์ล้วนมาจากภาษีประชาชน การใช้จ่ายงบประมาณจึงต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนตามที่กฎหมายกำหนด
การนำยาที่ได้รับจากโรงพยาบาลไปจำหน่ายในเว็บไซต์และกลุ่ม Social Media ตามที่ปรากฎเป็นข่าว หากเป็นเรื่องจริง ถือเป็นเรื่องไม่สมควร เพราะนอกจากจะเป็นการเอาเปรียบผู้ป่วยท่านอื่นแล้ว ยังเป็นเพิ่มภาระให้กับบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่จำเป็น อีกทั้งเป็นการกระทำผิดกฎหมายที่ไม่สมควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นนี้ สปสช. จะประสานหน่วยบริการที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลและเร่งดำเนินการตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้ โดยเฉพาะการเบิกจ่ายยาพ่นเพื่อบรรเทาอาการภูมิแพ้ที่เป็นข่าว หากพบว่ามีการมารับยาและนำไปจำหน่ายจริง สปสช. จะดำเนินการทางกฎหมายจนถึงที่สุด
รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า ขอเตือนไปยังผู้ที่กระทำพฤติกรรมดังกล่าวหรือผู้ที่จะทำตามแบบอย่าง เพราะนอกจากจะถูกดำเนินการทางกฎหมายแล้ว ยังเป็นผู้ที่บ่อนทำลายต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่เป็นหลักประกันสุขภาพของคนไทยทุกคนด้วย ทั้งนี้หากพบข้อมูลใดๆ ขอให้แจ้งมาที่ สปสช. เพื่อที่จะเร่งดำเนินการต่อไป
ข่าวแนะนำ
-
งานกาชาด 7 วัน ยอดขยะรวม 182 ตัน
- 18/12/67