TNN น้ำท่วมภาคเหนือ! บขส. แจ้งปรับเปลี่ยนเส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงคำ

TNN

สังคม

น้ำท่วมภาคเหนือ! บขส. แจ้งปรับเปลี่ยนเส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงคำ

น้ำท่วมภาคเหนือ! บขส. แจ้งปรับเปลี่ยนเส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงคำ

บขส. แจ้งปรับเปลี่ยนเส้นทาง "กรุงเทพฯ - เชียงคำ" ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมภาคเหนือ รถผ่านไม่ได้ กำชับเจ้าหน้าที่ - นายสถานีเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ ในพื้นที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง ส่งผลให้ถนนไม่สามารถเดินทางได้นั้น บขส. ได้ตรวจสอบเส้นทางเดินรถพบว่า เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงคำ ได้รับผลกระทบเนื่องจากสะพานบ้านทุ่งหนอง ทล.1091 พื้นที่ตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา เกิดการทรุดตัวจากฝนตกหนักและมีน้ำป่าไหลหลาก รถโดยสารไม่สามารถผ่านได้ ต้องปิดถนนชั่วคราว และอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข


บขส. จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถบางช่วง ดังนี้ 


เที่ยวกลับ (ขาล่อง) ออกจากสถานีเดินรถเชียงคำ ไปรับผู้โดยสารจุดจอดดอนเงิน จุดจอดปง และย้อนกลับมาออกยังอำเภอจุน และใช้เส้นทางอำเภอดอกคำใต้ - งาว กลับสู่เส้นทางปกติ ส่วนเที่ยวไป (ขาขึ้น) ใช้เส้นทางอำเภองาว - ดอกคำใต้ - จุน - ปง เพื่อส่งผู้โดยสารจุดจอดปง จุดจอดดอนเงิน และกลับสถานีเชียงคำในเส้นทางเดินรถปกติ ทั้งนี้ หากการแก้ไขสะพานบ้านทุ่งหนองแล้วเสร็จและเปิดให้ รถโดยสารวิ่งผ่านได้ บขส. จะกลับมาใช้เส้นทางเดินรถปกติต่อไป


นอกจากนี้ ได้มอบให้นายสถานีเดินรถในพื้นที่ภาคเหนือ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง หากพบว่าเส้นทางใดได้รับผลกระทบ มีน้ำท่วมสูงไม่สามารถผ่านได้ให้แจ้งทันที เพื่อปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถให้เหมาะสมและแจ้งผู้โดยสารให้ทราบต่อไป พร้อมกำชับพนักงานขับรถทุกเส้นทางให้ตระหนักถึงความปลอดภัย ตรวจสอบความพร้อมสภาพรถโดยสาร ยาง ก้านปัดน้ำฝน ไฟหน้า - หลัง ระบบเบรก เข็มขัดนิรภัย ก่อนให้บริการเป็นพิเศษ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ควบคุมความเร็วในการขับขี่ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 


และเมื่อเจอฝนตก สภาพถนนเปียก เส้นทางที่น้ำท่วมขัง ให้ใช้ความเร็วลดลง ใช้ความระมัดระวังในการขับรถให้มากขึ้น ไม่ขับขี่โดยประมาท รวมทั้งจัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 6 ชั่วโมง และพนักงานขับรถต้องได้รับการตรวจสภาพความพร้อมของร่างกายและจิตใจก่อนปฏิบัติหน้าที่ เพื่อส่งผู้โดยสารถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

ข่าวแนะนำ