ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียน "ภูพระบาท" เป็นมรดกโลก
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีหลังยูเนสโกประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม พร้อมย้ำไทยพร้อมอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปกป้องแหล่งมรดกโลก ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า แหล่งมรดกโลกภูพระบาทฯ ประกอบด้วย อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท และแหล่งวัฒนธรรมสีมา เป็นตัวแทนวัฒนธรรมสีมาที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยทวารวดีที่มีอายุราวศตวรรษที่ 8 และนับเป็นแหล่งที่ตั้งแหล่งใบเสมาที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนภูพระบาทฯ เป็นมรดกโลกในวันนี้ มีความสำคัญอย่างมากต่อไทย และนำมา ซึ่งผลประโยชน์ต่ออนุชนรุ่นต่อไป ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปกป้องแหล่งมรดกโลกในทุกระดับ ตลอดจนดำเนินการยกระดับการมีส่วนร่วมในการวิจัยทางวิชาการเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พร้อมต้อนรับทุกคนในการเดินทางมาเยือนไทย เพื่อเยี่ยมชมภูพระบาทฯ ที่เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกลำดับล่าสุด
ส่วนที่ บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี เขตเทศบาลนครอุดรธานี เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ได้ถ่ายทอดสดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกให้ประชาชนได้รับชม หลังจากทราบผล ชาวอุดรธานีต่างพากันดีใจ หลายคนบอกว่า พื้นที่ตรงนี้ถือเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ มานานกว่า 3,000 ปี มีหอนางที่มีเรื่องราวของนางอุษา และหินประวัติศาสตร์ เชื่อว่าหลังจากอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเป็นแหล่งมรดกโลก จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้
ด้านกระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 28 ก.ค.– 12 ส.ค. นี้ เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคน ตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ร่วมเฉลิมฉลองการประกาศขึ้นทะเบียนภูพระบาทเป็นมรดกโลกในครั้งนี้
