TNN กทม.พร้อมรับมือมั่นใจสามารถระบายน้ำท่วมได้ใน 1-3 ชม.

TNN

สังคม

กทม.พร้อมรับมือมั่นใจสามารถระบายน้ำท่วมได้ใน 1-3 ชม.

กทม.พร้อมรับมือมั่นใจสามารถระบายน้ำท่วมได้ใน 1-3 ชม.

สำนักการระบายน้ำฯ พร้อมรับมือฝนตกหนักในพื้นที่กทม. ช่วงส.ค. - ต.ค. มั่นใจสามารถระบายน้ำท่วมใน 2-3 ชั่วโมง

นายศุภมิตร ลายทอง รองผู้อำนวยการ สำนักการระบายน้ำกทม. ระบุถึง สถานการณ์ฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในเดือนกรกฎาคม ยังไม่สูงมาก อยู่ในระดับเล็กน้อย ถึงปานกลาง ปริมาณฝนอยู่ที่ 40-50 มิลลิเมตร  คาดว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น ซึ่งได้มีการติดตามสถานการณ์ฝนและการคาดการณ์ฝนร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมทั้งได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขุดลอกท่อระบายน้ำตามพื้นที่ต่างๆโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง เพื่อเปิดทางน้ำไหลผ่าน เจ้าหน้าที่บุคลากรและการสำรวจอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำต่างๆ มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง


ส่วนการคาดการณ์ฝนขณะนี้ทางสำนักระบายน้ำกรุงเทพฯ ได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลญี่ปุ่น ในการเพิ่มระบบแจ้งเตือนฝน การนำเทคโนโลยีตรวจจับฝนเข้ามาใช้ สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าฝนได้ก่อนเข้าพื้นที่ 3 ชั่วโมง 


ทั้งนี้ระบบการระบายน้ำของกทม.ยังสามารถรับมือได้ หากปริมาณฝนไม่เกิน 60 มิลลิเมตร การระบายน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่หากเกิน 60มิลลิเมตรขึ้นไปหรือปริมาณฝนถึง 100 มิลลิเมตร จะใช้ระยะเวลาการระบายน้ำอยู่ที่ 2-3 ชั่วโมง


ทั้งนี้กทม.ได้ดำเนินการโครงการแก้มลิงเพื่อเป็นพื้นที่รองรับน้ำ 38 แห่ง ที่ดำเนินการเสร็จแล้ว คือแก้มลิงวงเวียนบางเขน สามารถกักเก็บน้ำ 6,000 ลูกบาศก์เมตร  ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณวงเวียนบางเขน ถนนพหลโยธิน ถนนรามอินทรา  และบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ 


ส่วนแก้มลิงขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างบริเวณแจ้งวัฒนะซอย 14 บึงสีกัน ขนาดความจุอยู่ที่ 1แสน5หมื่น ลูกบาศก์เมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายฝนนี้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญาน้ำท่วมบริเวณซอยแจ้งวัฒนะ 14 ได้


ขณะที่ในวันนี้ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้นำผู้ต้องขัง ทำการลอกท่อ บริเวณ เส้นสรงประภา ดอนเมืองตั้งแต่ คลองประปา มาถึง วัดดอนเมือง  พบขยะทั้งชิ้นใหญ่และชิ้นเล็กจำนวนมาก เช่น ที่นอน ถุงกระสอบทราย ถุงปูน อยู่ในท่อน้ำ ซึ่งกทม.ได้ดำเนินการลอกท่ออย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าระบบการระบายน้ำต่างๆที่วางไว้จะทำสถานการณ์น้ำท่วมขังดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน


ภาพจากAFP 

ข่าวแนะนำ