TNN กทม.เตือน ‘โควิด - ไข้หวัดใหญ่’ ระบาดพีคสุดมิ.ย. - ส.ค. กลุ่มเสี่ยงเร่งฉีดวัคซีน

TNN

สังคม

กทม.เตือน ‘โควิด - ไข้หวัดใหญ่’ ระบาดพีคสุดมิ.ย. - ส.ค. กลุ่มเสี่ยงเร่งฉีดวัคซีน

กทม.เตือน ‘โควิด - ไข้หวัดใหญ่’ ระบาดพีคสุดมิ.ย. - ส.ค. กลุ่มเสี่ยงเร่งฉีดวัคซีน

กทม.เตือน ‘โควิด - ไข้หวัดใหญ่’ จะระบาดหนักพีคสุดช่วงมิ.ย. - ส.ค. แนะกลุ่มเสี่ยงเร่งฉัดวัคซีน เลี่ยงสัมผัสผู้ป่วย

วันนี้ (11 มิ.ย. 67) ในที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 3/2567 โดยสำนักอนามัย ได้รายงานสถานการณ์โรคติดต่อที่สำคัญ โดยระบุว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในขณะนี้มีลักษณะติดเชื้อตามฤดูกาล น่าจะสูงสุดในช่วงเดือนมิ.ย. - ก.ค. โดยเป็นสายพันธุ์ JN.1 ปัจจุบันอัตราป่วยตาย อยู่ที่ 0.02% ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาสายพันธุ์เดลต้าระบาดเมื่อเดือนมิ.ย. ปี 2564 ซึ่งอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 2.16% 


ขณะที่สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ในกรุงเทพฯ ปี 2567 มีผู้ป่วย จำนวน 21,406 ราย จากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่า สูงกว่าปี 2566 และสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง และพบผู้เสียชีวิต 2 ราย รายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล คาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค.  อัตราป่วยสูงสุดพบในเด็กวัยเรียน อายุ 5-14 ปี การระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนใหญ่พบในเรือนจำ โรงเรียน และสถานปฏิบัติธรรม


สายพันธุ์ที่พบ มีทั้งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และสายพันธุ์ B ซึ่งปัจจุบันมีการรณรงค์เชิญชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาล พร้อมประชาสัมพันธ์ และแจ้งเตือนประชาชนในเรื่องการป้องกันโรค และการแพร่กระจายเชื้อ โดยเน้นการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่


ขณะที่การระบาดของไข้เลือดออกนั้น ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.-1 มิ.ย.67 มีผู้ป่วยสะสม 1,973 ราย เสียชีวิต 3 ราย เมื่อเทียบกับประเทศไทย กรุงเทพฯ มีอัตราป่วยเป็นลำดับที่ 46 และมีอัตราป่วยเป็นลำดับที่ 6 เมื่อเทียบกับปริมณฑล กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อายุ 5-14 ปี รองลงมา คือ อายุ 15-34 ปี และอายุ 0-4 ปี


เมื่อแยกข้อมูลเป็นรายเขต พบว่า 3 เขต ที่มีอัตราป่วยสะสมสูงสุด ได้แก่ เขตภาษีเจริญ (แขวงคูหาสวรรค์) เขตดุสิต (แขวงสี่แยกมหานาค) และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย (แขวงคลองมหานาค)


สำหรับมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อนำโดยยุงลายนั้น สำนักอนามัย แนะนำให้ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยสงสัยโรคไข้เลือดออก ควรทายากันยุงป้องกันยุงกัดทุกราย เพื่อลดการแพร่โรค ตลอดจนผู้ที่อยู่ร่วมบ้าน และผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่มีการระบาด เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อจากผู้ป่วยโรคติดต่อนำโดยยุงลายไปสู่ชุมชน


ภาพจาก:  รอยเตอร์ 

ข่าวแนะนำ