TNN สภาผู้บริโภค ร้องแก้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค รับมือภัยเอไอ

TNN

สังคม

สภาผู้บริโภค ร้องแก้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค รับมือภัยเอไอ

สภาผู้บริโภค ร้องแก้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค รับมือภัยเอไอ

สภาผู้บริโภคขอของขวัญปีใหม่ไทย จากรัฐบาล พรรคการเมือง สภาผู้แทนราษฏร และสมาชิกวุฒิสภา ร่วมแก้ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคปี 2522 ให้ทันสมัย ป้องกันถูกละเมิดสิทธิจากเอไอ และ ยกระดับสิทธิผู้บริโภคเทียบเท่าสากล

วันที่ 14 มีนาคม 2567 สภาผู้บริโภค จัดงานวันสิทธิผู้บริโภค โดยมีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) องค์กรสมาชิกสภาผู้บริโภคกว่า 314 องค์กรทั่วประเทศเข้าร่วมเสวนา โดยประเด็นหลักของการรณรงค์ในปีนี้คือการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิทธิผู้บริโภคด้านปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอเพื่อให้ผู้บริโภครู้เท่าทัน มีความรับผิดชอบ และได้รับความเป็นธรรมจากการใช้เทคโนโลยีเอไอ


นางสาวบุญยืน  ศิริธรรม ประธานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องยกระดับในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้บริโภคเห็นว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคในปี 2522 ต้องมีการปรับปรุงแก้ไข เนื่องจากมีการคุ้มครองผู้บริโภคเพียง 5 ด้าน ขณะที่การคุ้มครองผู้บริโภคในสากลมีการคุ้มครองผู้บริโภค 8 ด้านด้วยกัน ซึ่งปีนี้สภาผู้บริโภคตั้งเป้าหมายว่าจะเสนอรัฐสภาให้แก้ไขกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคเทียบเท่ากับสากล อย่างเช่น เรื่องฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นสิทธิของผู้บริโภคที่จะอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อากาศดี


“ปีนี้เราตั้งเป้าหมายจะแก้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เรารอคนอื่นแก้มานานแล้วไม่สำเร็จสภาผู้บริโภคและสมาชิกจะแก้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคตั้งแต่ปี 2522 ให้มีการคุ้มครองผู้บริโภคครบ 8 ด้านเท่ากับผู้บริโภคสากล ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจาก สส.และสว. ในการผ่านกฎหมายเพราะฉะนั้นต้องอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้มีอำนาจ” นางสาวบุญยืนกล่าว

สภาผู้บริโภค ร้องแก้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค รับมือภัยเอไอ

ทางด้าน นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า วันผู้บริโภคสากลในปีนี้ (15 มีนาคม 2567) สหพันธ์ผู้บริโภคสากลกำหนดวาระ "เอไอ (AI) ที่มีความรับผิดชอบและเป็นธรรมกับผู้บริโภค" เป็นหัวข้อหลักในการรณรงค์เรียกร้องร่วมกันขององค์กรผู้บริโภคทั่วโลก เพื่อมุ่งเน้นสร้างการรับรู้ในผลกระทบของผู้บริโภคอันเกิดจากแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ เอไอ เนื่องจากปัจจุบันของผู้บริโภคทั่วโลกกำลังถูกคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีหรือ เอไอที่ถูกนำมาใช้เพื่อการหลอกลวงด้วยวิธีการต่าง ๆ 


นางสาวสารี  กล่าวอีกว่า ในปีนี้สภาผู้บริโภค หวังว่ารัฐบาลจะใช้วันสงกรานต์เป็นจุดเริ่มในการปรับปรุงกฎหมายร่วมกันและขอให้ทุกพรรคการเมืองร่วมกันเสนอแก้ไข พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค 2522 ที่ใช้มานาน โดยการเพิ่มความคุ้มครองผู้บริโภคให้ชัดเจนและให้เป็นสากลมากขึ้น ทั้งในเรื่องของอำนาจต่อรองให้กับผู้บริโภค การปกป้องผู้บริโภค การสนับสนุนองค์กรฟ้องคดีแทนผู้บริโภคต้องมีตัวแทนในสัดส่วนที่ชัดเจน เพราะแม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคก่อนหลาย ๆ ประเทศ แต่กฎหมายที่ใช้อยู่ยังด้อยกว่าอีกหลายประเทศในอาเซียน

“การปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค 2522 ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนซึ่งกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคของสภาผู้แทนราษฏร และขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขในเรื่องนี้ ภายใต้ความร่วมมือกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ. เพื่อยกระดับสิทธิผู้บริโภคไทยเทียบเท่าสากล เช่น ในต่างประเทศระบุสิทธิในการเข้าถึงสินค้าและการบริการในการดำเนินชีวิตหลายประเทศรับรองสิทธิในเรื่องนี้ รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย ทันกลโกงของมิจฉาชีพ รวมถึงเรื่องความเท่าทันของการทำงานเอไอ ทั้งเรื่องการโจรกรรมทาง (Cyber Crime) ที่ผู้บริโภคต้องเผชิญทุกวันด้วย” นางสาวสารีระบุ

สภาผู้บริโภค ร้องแก้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค รับมือภัยเอไอ

นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงสถานการณ์ปัญหาการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคในรูปแบบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้โดยเฉพาะปัญหาของผู้บริโภคที่ถูกละเมิดสิทธิจากเทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ ในหลากหลายรูปแบบและมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่องค์กรผู้บริโภคในระดับสากลและสภาองค์กรของผู้บริโภคซึ่งมีฐานะเป็นผู้แทนของผู้บริโภคในประเทศไทยได้ร่วมจัดงานนี้ขึ้นเพื่อร่วมรณรงค์เรียกร้องให้มีการใช้เทคโนโลยีเอไอที่มีความเป็นธรรมและมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค

“รัฐบาลตระหนักดีว่าการเข้ามาของเอไอ มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและขณะเดียวกันก็อาจสร้างผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคในลักษณะใดลักษณะหนึ่งเกิดเป็นภัยคุกคามบนโลกไซเบอร์ที่ใกล้ตัวผู้บริโภคมากขึ้น โดยในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมสนับสนุน และสภาผู้บริโภค ซึ่งเป็นภาคประชาชนร่วมทำงานในเรื่องนี้”


สำหรับในเรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ปี 2522  นายกฤช  กล่าวว่า ช่องทางในการแก้ไขกฎหมายมีหลายช่องทาง โดยภาคประชาชนสภาผู้บริโภคได้เสนอแก้ไข ซึ่งกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างเต็มที

“ผมในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานด้านคุ้มครองผู้บริโภคมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มามีส่วนร่วมในการสนับสนุนสภาองค์กรของผู้บริโภคในการจัดกิจกรรมการรวมตัวของผู้บริโภคองค์กรสมาชิกและองค์กรของผู้บริโภคเพื่อร่วมกันสร้างพลังในการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคของประเทศให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้นในการยกระดับสิทธิของผู้บริโภคและการคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากลสามารถ พัฒนาพัฒนางานคุ้มครองผู้บริโภคโดยการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนได้อย่างต่อเนื่องต่อไป” ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


นอกจากนี้ ในงานวันสิทธิผู้บริโภคสากล ปี 2567 มีกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจทั้งการเสวนาในหัวข้อ Consumer Talk หัวข้อ "เราจะช่วยกันยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคไทยได้อย่างไร?" และTech Talk หัวข้อ : เอไอ (AI) กับการคุ้มครองผู้บริโภค“เราต้องหาแนวทางการใช้ประโยชน์จากเอไอไม่ใช่เพียงให้เอไอหลอกหลวงหรือการใช้ข้อมูลเท็จที่ซับซ้อน”ดีฟเฟค” (Deep Fake) อย่างเดียว รวมถึงเวทีระดมความคิดต่อการแก้ไข พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค 2522  และการระดมความเห็นเกี่ยวกับการปราบปรามภัยทุจริตทางการเงิน


ทั้งนี้ ในวันที่ 15 มีนาคม สภาผู้บริโภคจะจัดประชุมสมัชชาใหญ่ร่วมกับองค์กรสมาชิกจำนวน 314 องค์กร ใน 43 จังหวัด โดยที่ผ่านมาองค์กรสมาชิกได้ให้ความช่วยเหลือผู้บริโภคไปแล้วกว่า 43,446 เรื่อง เพื่อร่วมกันประเมินปัญหา และกำหนดแนวทางในการคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป



ภาพ : สภาผู้บริโภค 


ข่าวแนะนำ