ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 "รถไฟฟ้าสายสีชมพู - สีเหลือง" ขยายเวลาให้บริการปิดตี 2
รถไฟฟ้าสายสีชมพู เริ่มเก็บค่าโดยสาร 7 มกราคม 2567 ส่วนคืนวันสิ้นปี 2566 'สายสีชมพู และ สายสีเหลือง' ขยายเวลาให้บริการปิดตี 2
รถไฟฟ้าสายสีชมพู เริ่มเก็บค่าโดยสาร 7 มกราคม 2567 ส่วนคืนวันสิ้นปี 2566 'สายสีชมพู และ สายสีเหลือง' ขยายเวลาให้บริการปิดตี 2
เนื่องในโอกาสเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 บริษัทบางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ร่วมกับ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (MRT) ขยายเวลาให้บริการเดินรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ทุกสถานี ในคืนวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2566 ถึงเวลา 02.00 น. ของวันจันทร์ที่ 1 มกราคม 256 โดยรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ขบวนสุดท้ายจะออกจากสถานีต้นทาง เวลา 02.00 น. และขบวนสุดท้ายที่จะออกจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (PK16) ไปปลายทางสถานีมีนบุรี (PK30) เวลา 02.34 น. และไปปลายทางสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) เวลา 02.32 น.
สำหรับตารางเวลารถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายของแต่ละสถานีสามารถตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชัน The SKYTRAINs หรือห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี และสำหรับอาคารจอดแล้วจร สถานีมีนบุรี (PK30) จะเปิดให้บริการฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ ที่เดินทางไปร่วมกิจกรรม สังสรรค์ หรือชมแสงสีในคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่นี้
เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง ด้วยการใช้ บัตรแรบบิท หรือเลือกใช้ บัตรโดยสารเที่ยวเดียว (Single Journey Tickets) ซึ่งสามารถซื้อบัตรโดยสาร ไป - กลับ ไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวก และหลีกเลี่ยงความหนาแน่นบริเวณชั้นจำหน่ายบัตรโดยสาร ในช่วงเวลาดังกล่าวได้
เช่นเดียวกับ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ขยายเวลาให้บริการเดินรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ทุกสถานี ในคืนวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2566 ถึงเวลา 02.00 น. ของวันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2567
โดยรถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายจะออกจากสถานีต้นทาง เวลา 02.00 น. สำหรับตารางเวลารถไฟฟ้าขบวนสุดท้าย สามารถตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชัน The SKYTRAINs หรือห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี
สำหรับอาคารจอดแล้วจร (สถานีศรีเอี่ยม YL17) จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่คิดค่าปรับค้างคืน โดยคิดอัตราค่าบริการจอดรถตามปกติ
รถไฟฟ้าสายสีชมพู เริ่มเก็บค่าโดยสารเมื่อไร?
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยและได้มอบหมายให้ตนติดตามการดำเนินงานรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูฯ อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ภายหลังเกิดเหตุรางจ่ายกระแสไฟฟ้า (Conductor rail) หลุดร่วงลงชั้นพื้นถนนและเกี่ยวสายไฟฟ้า บริเวณถนนติวานนท์ ระหว่างสถานีแคราย ถึง สถานีแยกปากเกร็ด เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมานั้น ในวันนี้ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและทดลองเดินรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูฯ จากสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 (PK08) ถึงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) เพื่อติดตามและตรวจสอบความเรียบร้อยในการดำเนินงาน
โดยเฉพาะการเร่งติดตั้งระบบรางจ่ายไฟให้แล้วเสร็จ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งหลังจากทดลองการเดินรถในวันนี้ ทางบริษัท NBM ผู้รับสัมปทานจะดำเนินการปรับรูปแบบการเดินรถในส่วนของสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ถึง สถานีกรมชลประทาน (PK05) โดยจะเปิดเดินรถแบบวิ่งไป-กลับทางเดียวก่อน (Shuttle) ส่วนสถานีอื่นๆ จะเปิดใช้งานทางรถไฟฟ้าได้ทั้งสองฝั่งตามปกติ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2566
ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปปลายทางสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) และปลายทางสถานีมีนบุรี (PK30) จะต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้าที่สถานีกรมชลประทาน (PK05) โดยใช้ชานชาลาที่ 1 พร้อมกันนี้ ทางบริษัทผู้รับสัมปทาน NBM ได้ดำเนินการเปิดใช้ทางเชื่อมระหว่างรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู กับรถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี และทางเชื่อมระหว่างรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ เรียบร้อยแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการ
อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกับ ขร. รฟม. และ NBM มีความเห็นร่วมกันว่า จะขยายระยะเวลาการเปิดทดลองให้ประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพู โดยไม่มีค่าใช้จ่ายจากเดิม 2 มกราคม 2567 เป็นวันที่ 6 มกราคม 2567 ทั้งนี้ ในวันที่ 7 มกราคม 2567 จะเริ่มเก็บค่าโดยสารตั้งแต่สถานีกรมชลประทาน (PK05) ถึง สถานีมีนบุรี (PK30) และยกเว้นการเก็บค่าโดยสารในส่วนของสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ถึง สถานีสามัคคี (PK04) จำนวน 4 สถานี จนกว่าจะดำเนินการแก้ไขรางจ่ายไฟแล้วเสร็จ โดยระหว่างนี้จะลดอัตราค่าโดยสารลง 15% จากอัตราปกติ ซึ่งจะมีอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 13-38 บาท เพื่อคงไว้ซึ่งประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนจะได้รับ
ภาพจาก TNN Online