หมอเผยผลชันสูตร "น้องเบนซ์" เหยื่อถังดับเพลิงระเบิดกลางโรงเรียน
โรงพยาบาลววชิรพยาบาล เผยผลชันสูตรศพ "น้องเบนซ์" เหยื่อถังดับเพลิงระเบิด ส่วนผู้บาดเจ็บอาการไม่รุนแรง แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
โรงพยาบาลววชิรพยาบาล เผยผลชันสูตรศพ "น้องเบนซ์" เหยื่อถังดับเพลิงระเบิด ส่วนผู้บาดเจ็บอาการไม่รุนแรง แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เปิดเผยอาการของนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุถังดับเพลิงระเบิด ที่โรงเรียนราชวินิตมัธยม ว่า ทางโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ได้รับ ผู้บาดเจ็บ 5 ราย ซึ่งเดินทางมาที่โรงพยาบาลช่วงเวลา 12:06 น.
-ผู้บาดเจ็บรายที่ 1 เป็นนักเรียนชายอายุ 16 ปี มาด้วยอาการปวดไหล่ขวา
-ผู้บาดเจ็บรายที่ 2 เป็นนักเรียนชายอายุ 17 ปี มาด้วยอาการเจ็บฝ่ามือขวา และถลอกหน้าแข้งขวา
-ผู้บาดเจ็บรายที่ 3 นักเรียนชายอายุ 18 ปี มาด้วยอาการปวดหู
-ผู้บาดเจ็บรายที่ 4 เป็นนักเรียนหญิงอายุ 13 ปี มาด้วยอาการปวดศีรษะ เจ็บคอร้าวไปที่แขนซ้าย
-ผู้บาดเจ็บรายที่ 5 เป็นนักเรียนหญิงอายุ 13 ปี มาด้วยอาการปวดหู
โดยขณะนี้ผู้บาดเจ็บทั้ง 5 รายได้รับการดูแลรักษาจากโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ได้รับอาการบาดเจ็บไม่รุนแรง จะไม่ส่งผลให้มีอาการหูดับในอนาคต แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้มีอาการคงที่ ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และพยาบาลได้มีการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยจำเป็นจะต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกันได้มีการพูดคุยกับทางผู้บาดเจ็บ บางส่วนเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต ก็ยังคงมีอาการตกใจ ทางทีมแพทย์ได้มีการส่งจิตแพทย์ ได้มีการเข้าไปพูดคุยและให้กำลังใจโดยอย่างใกล้ชิด ส่วนค่ารักษาพยาบาล ทางโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ได้มีการดูแลในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด
ส่วนผู้เสียชีวิต เป็นนักเรียนชายอายุ 18 ปี "น้องเบนซ์" เสียชีวิตที่เกิดเหตุ โดยแพทย์นิติเวชได้มีการผ่าชันสูตรศพเบื้องต้น พบว่า พบอาการบาดเจ็บมีร่องรอยบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณกระดูกต้นแขน และมีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่บริเวณหน้าอก พร้อมกับมีอวัยวะภายในทรวงอกฉีกขาด ซึ่งระบุเป็นสาเหตุให้ถึงแก่ชีวิต
ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมายังโรงพยาบาลวชิรพยาบาล พร้อมเปิดเผยว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 21 คน กลับบ้านไปแล้ว 12 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 9 คน แบ่งเป็น อยู่ที่ รพ.กลาง 4 คน รพ.วชิระพยาบาล 5 คน โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดอยู่ในโซนสีเขียว ไม่มีอาการสาหัส จะมีเพียงแค่ หูอื้อเท่านั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นแก้วหูอักเสบ และ บาดเจ็บที่ข้อมือเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอกจากนี้ ยังได้ส่งทีมนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลสภาพจิตใจเด็กๆเพราะหลายคนยังตกใจซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนใกล้ชิดกับเหตุการณ์
ส่วนถังดับเพลิงที่เกิดเหตุ เบื้องต้นตนเองได้เช็คข้อมูลและพูดคุยกับทาง ปภ. ซึ่งได้รับรายงานว่าตามระเบียบการดูแลรักษาหากตามมาตรฐาน จะมีการตรวจทุก 5 ปี ซึ่งการตรวจจะเป็นการฉีดแรงเันน้ำเข้าไป เพื่อตรวจสอบแต่สำหรับชุดถังดับเพลิงที่นำมาสาธิตนั้น จะต้องไปตรวจสอบประวัติว่าได้มาตราฐาน หรือไมีการทดสอบหรือไม่