"ถนนข้าวสาร" พร้อมนำร่องเปิดผับถึงตี 4 คาดกระตุ้นเม็ดเงินกว่าร้อยละ 30

ผู้ประกอบการถนนข้าวสาร เห็นด้วยกับแนวคิดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงในพื้นที่ท่องเที่ยวของชาวต่างชาติจนถึงเวลา 4.00 น. พร้อมเสนอถนนข้าวสารเป็นพื้นที่นำร่อง โดยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย และจัดโปรโมชั่นลดราคาที่พักสำหรับนักดื่มเพื่อลดอุบัติเหตุจากเมาและขับ   

"ถนนข้าวสาร" ซึ่งเต็มไปด้วยสถานบันเทิง ร้านอาหารกึ่งผับ และ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และ ต่างชาติ เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายในการนำร่องขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 4.00 น. สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ 

จากแนวคิดนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เสนอขึ้นมาเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอ้างอิงจากผลวิจัยปี 2562 ที่ระบุว่า นักท่องเที่ยวกลางคืนใช้จ่ายเงินสูงสุด ช่วงเวลา 01.00 - 03.00 น. 

เพราะเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เคยชินกับเวลาในการใช้ชีวิตตามเวลาเมื่ออยู่ต่างประเทศ  และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว เมื่อดื่มแล้วมีอารมณ์สนุกสนาน ความยับยั้งชั่งใจเหลือน้อยลง จึงใช้จ่ายมากขึ้น โดยคาดว่าช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 

นายอานุภาพ วงศ์งามดี ผู้ประกอบการร้านท่าช้าง ถนนข้าวสาร เชื่อว่าการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 4.00 น. ยังสอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่ ที่เริ่มต้นการเข้าสถานบันเทิงในเวลา 21.00 น. ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าการขยายเวลาปิดสถานบันเทิงจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับร้านได้ถึงร้อยละ 70 - 80 

ด้าน นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ยืนยันพร้อมสนับสนุนให้ถนนข้าวสารเป็นพื้นที่นำร่องขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง พร้อมเตรียมแผนรองรับทั้งการยกระดับการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งจะวางมาตรการร่วมกับตำรวจ 

รวมถึงประสานกับผู้ประกอบการโรงแรมจัดส่งเสริมการขายลดราคาห้องพักให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยตั้งแต่ช่วงเวลา 04.00 - 12.00 น. เพื่อลดอุบัติเหตุจากการขับขี่ยานพาหนะหลังสถานบันเทิงปิด ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าหากสามารถผลักดันแนวคิดดังกล่าวได้จะช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาได้อีกร้อยละ 20-30

นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ยอมรับว่าตั้งแต่เปิดประเทศเต็มรูปแบบตัวเลขนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และมากเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ โดยมั่นใจว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ต่อเนื่องไปถึงไตรมาสแรกของต้นปีหน้านักท่องเที่ยวต่างชาติจะมากขึ้นอีก โดยเฉพาะชาวยุโรป ซึ่งจะหนีอากาศหนาวเย็นจัดเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 

ขณะที่ ยอดการจองโรงแรมในถนนข้าวสารขณะนี้มีเข้ามาแล้วถึงร้อยละ 50 ส่วนรายได้ของผู้ประกอบการก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 50-60 และหากเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน เชื่อว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 ซึ่งสอดคล้องกับยอดจองที่พัก

ทั้งนี้ คาดหวังว่าการจัดงานช่วงเทศกาลฮาโลวีนในวันที่ 31 ตุลาคมนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และฟื้นฟูการท่องเที่ยวของถนนข้าวสารให้กลับมาคึกคักต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่.

ภาพจาก แฟ้มภาพ TNN Online