เปิดแดชบอร์ด สปสช. 9 ส.ค.นี้ ให้ประชาชน - รพ.เข้าถึง 8 กลุ่มข้อมูลด้านสุขภาพ
สปสช.เตรียมเปิดแดชบอร์ด 8 กลุ่มข้อมูลสุขภาพ ให้ประชาชน หน่วยบริการ และนักวิชาการเข้าไปใช้ประโยชน์ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 2565 ชี้เป็นการคืนข้อมูลการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพให้สังคม หวังให้ใช้ประโยชน์ในการกำหนด ติดตามกำกับนโยบายและพัฒนาระบบสุขภาพร่วมกัน
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดรายการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา ในหัวข้อ มารู้จัก "แดชบอร์ด สปสช." ดียังไง มีประโยชน์ยังไง ใครกันที่ได้ประโยชน์ โดยมี พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการ สปสช. และ นายประเทือง เผ่าดิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนข้อมูลดิจิทัล สปสช. ร่วมให้ข้อมูล
แดชบอร์ด คืออะไร มีไปเพื่ออะไร
พญ.ลลิตยา กล่าวว่า แต่ละปี สปสช.บริหารงบประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพของประชาชน และต้องตอบให้ได้ว่ามีการใช้จ่ายอย่างไร ประชาชนได้ประโยชน์หรือได้รับรับบริการหรือไม่
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ที่ สปสช. ต้องคืนข้อมูลการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพกลับคืนให้แก่สังคม เพื่อให้ประชาชนและหน่วยบริการร่วมใช้ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการกำหนด/กำกับติดตามนโยบายสุขภาพได้
โดย สปสช.จะนำเสนอในรูปแบบของแดชบอร์ด ซึ่งก็คือหน้าเว็บเพจที่สรุปข้อมูลต่าง ๆจากฐานข้อมูลของ สปสช. มานำเสนอในรูปแบบของอินโฟกราฟฟิกเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย โดยจะเริ่มเปิดให้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 2565 นี้เป็นต้นไป
พญ.ลลิตยา กล่าวต่อไปว่า การนำเสนอข้อมูลแบบแดชบอร์ดมีใช้กับภาคเอกชนมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ในส่วนของ สปสช. เริ่มใช้นำมาใช้ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2565 ซึ่งขณะนั้นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ากำลังระบาดหนัก และได้นำแดชบอร์ดมาใช้ในการติดตามสถานการณ์และการเข้าถึงการรักษาของประชาชน และเมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
ทาง นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. จึงมีแนวคิดนำแดชบอร์ดมาใช้กับอีกหลายกลุ่มโรค เพื่อให้ประชาชนและหน่วยบริการได้ใช้ประโยชน์หรือกำกับติดตามว่าประชาชนได้รับบริการสุขภาพตามเป้าหมายที่กำหนดมากน้อยแค่ไหน
แดชบอร์ด สปสช. มีอะไรบ้าง?
ข้มูลที่เตรียมเผยแพร่ในแดชบอร์ดนี้ จะประกอบด้วย
1.ข้อมูลโควิด-19
2.การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
3.ไตวายเรื้อรัง
4.เบาหวาน/ความดันโลหิตสูง
5.วัคซีนไข้หวัดใหญ่
6.บริการTele-medicine
7.มะเร็งรักษาทุกที่
8.การเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์
"เราแบ่งผู้ใช้เป็น 3 กลุ่มคือ 1.ประชาชนทั่วไป 2.หน่วยบริการ และ 3.นักวิชาการ/นักวิจัย ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 2565 เราจะทยอยอัพโหลดข้อมูลให้แต่ละกลุ่มเข้ามาดูได้ แต่ในส่วนของประชาชนอาจต้องปรับรูปแบบข้อมูลให้เข้าใจง่ายขึ้น
เช่น ทำภาษาไทยกำกับศัพท์เทคนิคทางการแพทย์ เป็นต้น ส่วนกลุ่มของหน่วยบริการไม่น่าจะมีปัญหากับศัพท์เทคนิคอะไรอยู่แล้ว และในส่วนของนักวิชาการ/นักวิจัย ในขั้นตอนต่อไป สปสช.จะจัดทำชุดข้อมูลมาตรฐานให้สามารถดาวน์โหลดเอาไปใช้ในการศึกษาวิจัยได้ด้วย
แต่ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล เพราะเราจะเข้ารหัสข้อมูลส่วนบุคคล ผู้นำข้อมูลไปใช้จะไม่ทราบว่าเป็นใคร เพศอะไร หรือมีเลข 13 หลักอะไร ทุกอย่างเป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล" พญ.ลลิตยา กล่าว
พญ.ลลิตยา กล่าวด้วยว่า สำหรับทิศทางในอนาคต สปสช.จะเน้นการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อบริหารงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และตรงความต้องการของประชาชน ตลอดจนเปิดให้สาธารณะมาใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ร่วมกัน เพื่อจะได้นำไปพัฒนาปรับปรุงระบบสาธารณสุขโดยรวม
ด้าน นายประเทือง กล่าวว่า ฐานข้อมูลของ สปสช. มีขนาดใหญ่มาก แต่ละปีมีข้อมูลผู้ป่วยนอกและข้อมูลการส่งเสริมสุขภาพกว่า 200 ล้านเรคคอร์ด ข้อมูลผู้ป่วยในอีกกว่า 8 ล้านเรคคอร์ด และข้อมูลรวมตั้งแต่จัดตั้ง สปสช. มีกว่า 2,000 ล้านเรคคอร์ด
ประชาชนเข้าถึงการจัดสรรงบประมาณ พร้อมติดตามเข้าถึงบริการสุขภาพ
ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาแปลงให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและพร้อมใช้งาน ตัวอย่างเช่น ข้อมูลการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ระบบแดชบอร์ดจะมีข้อมูลตั้งแต่สถานการณ์การเข้าถึงบริการของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การฝากครรภ์ และบริการส่งเสริมสุขภาพอื่นๆ
ผู้ใช้แดชบอร์ดจะเห็นสถานการณ์หมดว่าประชาชนเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพในแต่ละรายการมากน้อยเท่าใด งบประมาณที่ สปสช. ได้รับจัดสรรมาจากรัฐบาลมีการใช้ไปอย่างไรบ้าง ซึ่งนอกจากดูภาพรวมในระดับประเทศแล้ว ยังสามารถเจาะลึกเป็นรายเขตสุขภาพ รายจังหวัดได้
สามารถดูประสิทธิภาพการเบิกจ่ายของหน่วยบริการได้ว่าเป็นอย่างไร และหน่วยบริการยังสามารถตรวจสอบความคืบหน้าในการเบิกจ่ายเงินชดเชยค่าบริการของ สปสช. ได้ว่ารายการที่ส่งเบิกเข้ามานั้นอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว
หรือกรณีผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง แดชบอร์ดจะแสดงจำนวนผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ข้อมูลจำนวนผู้ป่วยที่ล้างไตด้วยเครื่องอัตโนมัติ ผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้อง และผู้ที่ฟอกเลือด ทำให้สามารถเห็นภาพรวมสถานการณ์ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังในระบบหลักประกันสุขภาพ และยังสามารถแสดงสถานการณ์ของหน่วยฟอกไตในแต่ละพื้นที่ว่ามีจำนวนเครื่องฟอกไตเท่าใด มีจำนวนแพทย์เท่าใด จำนวนผู้รับบริการเทียบกับศักยภาพแล้วเป็นอย่างไร เพียงพอหรือไม่เพียงพอ
รวมทั้งสามารถดูได้ว่าพื้นที่ไหนที่ยังขาดแคลนและจำเป็นต้องเพิ่มหน่วยบริการ หรือ ข้อมูลการเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ สปสช.มีโครงการพิเศษในการจัดซื้อยาราคาแพงสำหรับผู้ป่วยบางโรค ก็สามารถดูข้อมูลการใช้ยา จำนวนสต็อกยาของแต่ละโรงพยาบาลได้ว่าเหลือเท่าใด เป็นต้น
ซึ่งนอกจากหน่วยบริการแล้ว ประชาชนก็สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้ เช่น กรณีเป็นผู้ป่วยไตวายเรื้อรังแล้วจำเป็นต้องย้ายที่อยู่ ก็สามารถตรวจสอบได้ว่าหน่วยฟอกไตในพื้นที่ที่จะไปพักอาศัยมีจำนวนเท่าใด ตั้งอยู่จุดไหน สามารถรองรับผู้ป่วยรายใหม่ได้หรือไม่ เป็นต้น
นายประเทือง กล่าวว่า ในส่วนของช่องทางการเข้าไปสู่แดชบอร์ด สปสช.นั้น ในวันที่ 9 ส.ค. จะมี link ให้คลิกเข้าระบบแดชบอร์ด บนหน้าเว็บไซต์ของ สปสช. (www.nhso.go.th) รวมทั้งในเฟซบุ๊ก สปสช. (Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพ) รวมทั้งประสานกระทรวงสาธารณสุขในการเผยแพร่ช่องทางการเข้าระบบแดชบอร์ดแก่หน่วยบริการต่อไป.
ภาพจาก แฟ้มภาพ AFP