TNN 5 อาการเข้าข่ายเสี่ยงป่วย ‘โรคฝีดาษลิง’ หากเป็นแบบนี้รีบพบแพทย์

TNN

สังคม

5 อาการเข้าข่ายเสี่ยงป่วย ‘โรคฝีดาษลิง’ หากเป็นแบบนี้รีบพบแพทย์

5 อาการเข้าข่ายเสี่ยงป่วย ‘โรคฝีดาษลิง’ หากเป็นแบบนี้รีบพบแพทย์

หมอโอภาสเผย 5 อาการเข้าข่ายเสี่ยงป่วย ‘โรคฝีดาษลิง’ หากพบตนเอง-คนใกล้ชิดเป็นแบบนี้ให้รีบพบแพทย์

วันนี้ ( 23 ก.ค. 65 )จากกรณีการพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง (ฝีดาษวานร) รายแรกในประเทศไทย      นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ให้คำแนะนำในการป้องกันโรคฝีดาษลิงสำหรับประชาชน ระหว่างแถลงความคืบหน้าสถานการณ์ ดังต่อไปนี้

1.โรคฝีดาษลิงติดเชื้อจากไหน?

- ติดเชื้อจากการสัมผัสโดยตรงกับตุ่มหรือผื่น หรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกับผู้ป่วย ดังนั้นให้เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีตุ่มหนอง และงดใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย

2.วิธีการป้องกันเชื้อฝีดาษลิง

- น้นการล้างมือบ่อยๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะห่าง

3.อาการป่วยโรคฝีดาษลิง

3.1 เริ่มมีไข้ 

 3.2 เจ็บคอ 

3.3ต่อมน้ำเหลืองโต 

3.4 มีผื่นแดง หรือตุ่มน้ำ ตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ลำตัว แขน ขา ใบหน้า และฝ่ามือฝ่าเท้า 

3.5 มีประวัติเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

หากมีอาการดังนี้ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และแจ้งประวัติเสี่ยงด้วย

4.พบคนใกล้ชิดเข้าข่ายเป็น ฝีดาษลิง ทำอย่างไร?

- กรณีพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่เป็นชาวต่างชาติ แนะนำให้ผู้ป่วยไปพบแพทย์ ไม่ควรหลบหนี ทั้งนี้เพื่อลดการแพร่โรคสู่ผู้อื่น

นพ.โอภาส ยังระบุด้วยว่า เชื้อฝีดาษลิงในปัจจุบันมี 2 สายพันธุ์หลัก คือ

 1.สายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก ความรุนแรงไม่มาก 

2.สายพันธุ์แอฟริกากลาง มีความรุนแรงมากกว่า

 ซึ่งการระบาดในรอบนี้ ส่วนใหญ่เป็นการระบาดของสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก

"การระบาดในรอบนี้ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก โดยมี 2 สายพันธุ์หลักๆ คือ A และ B ตอนนี้ แต่อนาคตเมื่อกลายพันธุ์จะมีสายพันธุ์ย่อยได้อีกเยอะ สายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในยุโรป คือ สายพันธุ์ B.1 ส่วนสายพันธุ์ที่พบในผู้ป่วยรายนี้ (ชาวไนจีเรีย) คือ A.2 ซึ่งสัมพันธ์กับสายพันธุ์ที่ระบาดในอเมริกา" อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

5 อาการเข้าข่ายเสี่ยงป่วย ‘โรคฝีดาษลิง’ หากเป็นแบบนี้รีบพบแพทย์


ข้อมูลจาก  : กรมควบคุมโรค

ภาพจาก  : AFP/กรมควบคุมโรค

ข่าวแนะนำ