กรมควบคุมโรคไม่ห่วง"ฝีดาษลิง" หากระบาดมีวัคซีนรองรับ
กรมควบคุมโรค ย้ำฝีดาษลิงเป็นโรคต้องเฝ้าระวัง ยังไม่ใช่โรคติดต่ออันตราย ไทยยังมีวัคซีนไข้ทรพิษที่ถูกเก็บแช่แข็งไว้กว่า 40 ปี หากเกิดฉุกเฉินสามารถนำออกมาใช้ผลิตวัคซีนได้ประมาณ 1 หมื่นโดส
วันนี้ ( 28 พ.ค. 65 )นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยการติดตามสถานการณ์ฝีดาษลิง ว่า ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ก็จำเป็นต้องมีศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน(EOC) กรณีฝีดาษลิงเพื่อคอยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และมีเพิ่มเติมคือห้องปฏิบัติการ เนื่องจากประเทศไทยไม่เคยมีการระบาดฝีดาษลิงมาก่อนจึงยังไม่มีห้องตรวจหาเชื้อโดยเฉพาะ แต่ตอนนี้ในส่วนของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว
ส่วนแนวทางป้องกันอนาคตหากเกิดการระบาดอาจต้องใช้วัคซีนไข้ทรพิษ หรือ ฝีดาษที่ไทยได้เก็บรักษาไว้โดยการแช่แข็งมานานกว่า 40 ปี หากฉุกเฉินสามารถนำออกมาผลิตเป็นวัคซีนฝีดาษได้ประมาณ 1 หมื่นโดส โดยเมื่อ 10 ปีก่อนได้เคยนำออกมาทดสอบประสิทธิภาพพบว่ายังใช้ได้ดี และเชื่อว่าการระบาดของฝีดาษลิงในปัจจุบันวัคซีนที่เก็บไว้ก็น่าจะใช้ป้องกันได้ถึงร้อยละ 80 แต่เนื่องจากสถานการณ์ฝีดาษลิงในประเทศไทยยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง การที่จะฉีดวัคซีนป้องกันไว้จึงยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก บางคนอาจกระทบต่อระบบประสาท หากไม่มีกรณีผู้ติดเชื้อการฉีดวัคซีนล่วงหน้าอาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่า
ทั้งนี้กรมควบคุมโรค ย้ำประชาชนอย่าตื่นตระหนก โดยกระทรวงสาธารณสุขพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานงานร่วมกันติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยดูจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ และขอยืนยันว่าฝีดาษลิงเป็นโรคต้องเฝ้าระวังตามปกติเช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออก โรคหัด โรคอีสุกอีใส ยังไม่ใช่โรคติดต่ออันตรายร้ายแรง แม้ในต่างประเทศพบผู้ติดเชื้อไปแล้วหลักร้อยคนก็ยังไม่ทีผู้เสียชีวิต
ภาพจาก : AFP