TNN นายกฯ สั่งระดมกำลังช่วยเหลือน้ำท่วมใต้ - กำชับปชช. ต้องไม่รอนาน

TNN

การเมือง

นายกฯ สั่งระดมกำลังช่วยเหลือน้ำท่วมใต้ - กำชับปชช. ต้องไม่รอนาน

นายกฯ สั่งระดมกำลังช่วยเหลือน้ำท่วมใต้ - กำชับปชช. ต้องไม่รอนาน

นายกฯ สั่งระดมกำลังช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ ใช้รมว. มหาดไทย - กลาโหมอยู่หน้างาน กำชับปชช. ต้องไม่รอนาน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุครม.รับทราบปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัดของพื้นที่ภาคใต้ ที่มีสาเหตุมาจากฝนตกหนักต่อเนื่องและมีปริมาณน้ำมาก จึงสั่งการให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รมช.มหาดไทย และรมช.กลาโหมลงพื้นที่ โดยจะอยู่หน้างาน เพื่อแก้ไขและให้ทำหน้าที่ต่อ โดยขอให้ทุกภาคส่วนทำงานร่วมกัน 


ทั้งนี้ได้รับรายงานจากคนในพื้นที่ว่าทางกทม.ได้ส่งความช่วยเหลือ ทั้งเรือท้องแบน 7 ลำ เรือเครื่อง5 เครื่อง รถกระบะ2คัน รถบรรทุก6ล้อ มีเครน และมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย 23 คน นายช่าง4 คน รวมเป็น 27 คนเพื่อนำไปช่วยเหลือภาคใต้


นอกจากนั้นได้สั่งการให้ศบอต. ประสานงานกับศปช.ส่วนกลาง เร่งรัดสั่งการ เรื่องการประกอบอาหารและโรงครัวพระราชทาน อุปกรณ์ต่างๆ พร้อมให้อพยพประชาชนจากพื้นที่น้ำท่วมสูงและจัดเตรียมหน่วยแพทย์ ยารักษาโรค เพื่อป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และให้ดูเรื่องมาตรการเยียวยาควบคู่กันไป เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องรอนาน


ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย  ขานรับคำสั่งนายกรัฐมนตรี   บินด่วนลงพื้นที่ พร้อมด้วย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้และการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจุดแรกลงพื้นที่ จ.นราธิวาส  มีการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำภาพรวมของ 4 จังหวัด (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา) ณ ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส  


นายอนุทิน ระบุได้เร่งประสานงานกับกรมบัญชีกลางเพื่อขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดจากจังหวัดละ 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาทโดยเร็ว นอกจากนี้ สั่งการให้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เร่งสนับสนุนสรรพกำลัง อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือตามที่จังหวัดร้องขอ โดยเฉพาะเรื่องเรือพาหนะ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นที่ทุกจังหวัดกำลังต้องการขณะนี้ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด  ใช้สรรพกำลังและทรัพยากรที่มีกระจายเข้าไปในพื้นที่โดยเร็วที่สุดเต็มศักยภาพ


ข้อมูลจาก:ทำเนียบรัฐบาล 

ภาพจาก: ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง