เลือกตั้ง 2566 ปฏิทินการเมืองหลัง กกต.รับรอง ส.ส.
ปฎิทินการเมือง หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ (กกต.) มีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน รวม ส.ส. 500 คน นับเป็นก้าวแรกของสภาชุดใหม่ ก่อนจะมีการเรียกประชุมสภาเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและนายกรัฐมนตรี เรามาดูไทม์ไลน์การเมือง หลังจากนี้
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 121 กำหนดว่า ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ กกต. รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก หรือหมายความว่า ภายใน 3 กรกฎาคม 2566 จะต้องมีการเรียกประชุมสภาเป็นครั้งแรก
ในการประชุมสภาครั้งแรก ภารกิจแรกของบรรดา ส.ส. ชุดใหม่ คือ การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 5 ระบุว่า การเลือกตั้งประธานสภาและรองประธานสภา ให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเชิญสมาชิกผู้มีอายุสูงสุดซึ่งอยู่ในที่ประชุม เป็นประธานสภาชั่วคราว เพื่อดำเนินการเลือกประธานและรองประธานสภาตามลำดับ
ทั้งนี้รัฐธรรมนูญ ปี 2560 ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการลงมติให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้ไม่สามารถระบุกรอบเวลาที่ชัดเจนได้ แต่จากแนวปฏิบัติหลังการเลือกตั้ง ปี 2562 พบว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีจะเกิดขึ้นหลังจากสภามีมติเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยคาดว่าน่าจะได้ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภายในเดือนกรกฎาคม 2566 และคาดว่าจะมีการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้ภายในเดือนสิงหาคม
สำหรับขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 272 ว่า ภายใน 5 ปีแรก นับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญ ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาที่ประกอบด้วย ส.ส. และ ส.ว. มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี โดยผู้ได้รับแต่งตั้ง ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา หมายความว่า ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ จะต้องได้รับเสียงเห็นชอบจาก ส.ส. หรือ ส.ว. รวมกัน ไม่น้อยกว่า 376 เสียง
ซึ่งจากผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่า พรรคที่สนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตจากก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี มีเสียง ส.ส.รวมกันอย่างน้อย 312 เสียง จาก 8 พรรคการเมือง ได้แก่ ก้าวไกล เพื่อไทย ประชาชาติ ไทยสร้างไทย เสรีรวมไทย เป็นธรรม เพื่อไทรวมพลัง และพลังสังคมใหม่
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล พิจารณาเลือกสรรผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 35 คน ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี นำรายชื่อรัฐมนตรีขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ระบุว่า ครม. ที่พ้นจากตำแหน่งเพราะการยุบสภา ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า ครม. ที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ หรือหมายความว่า รัฐบาลรักษาการของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะหมดวาระต่อเมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ครม. ชุดใหม่ลงมา
ข่าวแนะนำ