"หมอมนูญ" เผยผลศึกษาระยะที่ 3 "ยาแพกซ์โลวิด" ลดป่วยหนักได้ 89%
"หมอมนูญ" อัปเดตผลการศึกษาระยะที่ 3 "ยาแพกซ์โลวิด" สามารถลดการป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลได้ 89% และไม่มีคนเสียชีวิต
วันนี้( 22 พ.ย.64) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเพจ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ว่า
"สัปดาห์ที่ผ่านมามีทั้งข่าวดีและข่าวไม่ดีเกี่ยวกับยารักษาโรคโควิด-19
เริ่มที่ข่าวไม่ดีก่อน ผลการศึกษาระยะที่ 3 ของยา Avigan ฟาวิพิราเวียร์ในประเทศสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และบราซิล เปรียบเทียบยาจริงกับยาหลอก เมื่อให้เร็วภายใน 5 วันหลังเริ่มมีอาการ ทราบแต่ในข่าวว่าผลการศึกษาสร้างความผิดหวังให้กับบริษัทยาของญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ยาตัวนี้
เชื่อว่ายาตัวนี้คงจะไม่ผ่านการรับรองของประเทศสหรัฐอเมริกา เราคงต้องรอผลงานวิจัยตึพิมพ์ออกมา ถ้าข่าวนี้เป็นจริง ถึงเวลาที่ประเทศไทยควรจะหยุดใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาหลักในการรักษาโรคโควิด-19 ต่อไป
ข่าวดีก็คือผลการศึกษาระยะที่ 3 ของยา PAXLOVID แพกซ์โลวิด บริษัทไฟเซอร์ ในหลายประเทศในอเมริกาเหนือและใต้ ยุโรป แอฟริกาและเอเชีย เปรียบเทียบยาจริงกับยาหลอก เมื่อให้เร็วภายใน 5 วันหลังเริ่มมีอาการ สามารถลดการป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลได้ 89% และไม่มีคนเสียชีวิตในกลุ่มที่กินยา PAXLOVID
ขณะที่กลุ่มคนที่ได้รับยาหลอกเสียชีวิต 10 คน (1.6%) ยานี้สามารถใช้ได้กับเชื้อไวรัสโควิดทุกสายพันธุ์ ผลข้างเคียงของยาไม่รุนแรงเมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก ยานี้ทำหน้าที่ยับยั้งเอนไซม์ 3CL Protease ทำให้ไวรัสไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้
ขณะนี้บริษัทไฟเซอร์กำลังรอองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกาอนุมัติให้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยให้กินทางปากวันละ 2 ครั้ง ทุก 12 ชั่วโมง ติดต่อกัน 5 วัน
ในแง่ประสิทธิภาพ ยา PAXLOVID สามารถลดการป่วยหนักได้ดีกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ ในอนาคตอันใกล้ทั้งยา PAXLOVID และยาโมลนูพิราเวียร์จะถูกนำมาใช้เป็นยาหลักในการรักษาโรคโควิด-19"
ภาพจาก AFP/หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC