
สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงาน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 นักไวรัสวิทยาจากสถาบันไวรัสอู่ฮั่น ว่าได้พบ “เชื้อโคโรนาไวรัสชนิดใหม่” ที่มาจาก “ค้างคาว” และสามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้เช่นเดียวกับเชื้อโควิด-19 ทีมนักวิทยาศาสตร์เรียกเชื้อไวรัสชนิดใหม่นี้ว่า HKU5 เป็นไวรัสจากสกุลย่อยของกลุ่ม merbecovirus และ กลุ่มไวรัสที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ เมอร์ส (Mers) ด้วย ซึ่งไวรัสชนิดใหม่ตรวจพบเจอครั้งแรกในค้างคาวสายพันธ์ุ Japanese pipistrelle bat ที่อาศัยอยู่ในฮ่องกง แม้ยังไม่ทราบต้นกำเนิดของเชื้อในค้างคาวที่ชัดเจน แต่การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าวิวัฒนาการของเชื้อไวรัสในค้างคาวจะสามารถแพร่ไปสู่คนได้โดยผ่านตัวกลางที่เรียกว่าเชื้อ “โฮสต์เริ่มต้น” ก่อนแพร่ระบาดในร่างกายมนุษย์
ด้าน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย กรณีพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ HKU5 ในค้างคาว ที่มีรายงานข่าวว่าสามารถเกาะกับตัวรับในเซลล์ของคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ดีเหมือนโควิด 19 นั้น เป็นเพียงข้อมูลรายงานการวิจัยของห้องแล็บจีน เมื่อปี 2566 ยังไม่พบว่ามีการแพร่ระบาดหรือติดเชื้อสู่คน ย้ำไทยมีระบบเฝ้าระวังการระบาดเข้มแข็งและติดตามการกลายพันธุ์ต่อเนื่อง ชี้มาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ช่วยป้องกันไวรัสได้ทุกสายพันธุ์

สรุปข่าว
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเกี่ยวกับข่าวการค้นพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในค้างคาวจากทีมนักวิจัยชาวจีน (วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568) ซึ่งมีความสามารถในการติดต่อไปยังมนุษย์ได้คล้ายกับไวรัสโควิด-19 ว่า ข้อมูลดังกล่าวได้มาจากการวิจัยในห้องแล็บที่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดยเป็นการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในการตรวจทางห้องปฏิบัติการ สายพันธุ์ HKU5-CoV-2 ที่ค้นพบนี้ เป็นความหลากหลายทางพันธุกรรมในไวรัสสกุล Merbecovirus ซึ่งไม่ถือว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือไวรัสกลายพันธุ์ แต่เป็นไวรัสในตระกูลโคโรน่าไวรัสที่มีหลายสายพันธุ์ย่อย โดยนักวิจัยค้นพบว่ามีลักษณะการจับคู่ระหว่าง HKU5-CoV-2 กับ ACE2 ของมนุษย์ที่แตกต่างจากมาร์เบโควีโรสอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดข้อสันนิษฐานในทางการวิจัยว่าอาจมีความเสี่ยงต่อการติดต่อจากสัตว์ไปสู่คนและอาจส่งผลให้เกิดการระบาด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการแพร่ระบาดหรือข้อมูลทางระบาดวิทยาที่เกี่ยวข้องกับสายพันธุ์ HKU5-CoV-2 ในคนแต่อย่างไร ประชาชนจึงไม่ต้องวิตกกังวลในขณะนี้ สำหรับประเทศไทย ได้มีระบบเฝ้าระวังและควบคุมป้องกันโรคระหว่างประเทศที่เข้มแข็ง รวมถึงความร่วมมือของกรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเครือข่ายทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อเฝ้าระวังสายพันธุ์ไวรัสก่อโรคอย่างต่อเนื่อง และมีความรวดเร็วในการตอบสนองต่อสถานการณ์ ขณะนี้ผู้ป่วยโรคโควิด 19 ในประเทศไทยยังคงเป็นสายพันธุ์โอมิครอน JN.1*
“แม้จะยังไม่พบการระบาดของสายพันธุ์ HKU5-CoV-2 แต่มาตรการป้องกันจะไม่แตกต่างจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ ที่ก่อโรคระบบทางเดินหายใจ ทั้งไข้หวัดใหญ่ โควิด 19 หรือ RSV คือ หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด หากจำเป็นต้องไปให้สวมหน้ากากอนามัย หรือสวมเมื่อป่วยมีอาการระบบทางเดินหายใจเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ล้างมือเป็นประจำ โดยบุคคลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและมีอาการรุนแรงสามารถเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคได้ ทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือวัคซีนโควิด 19” นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า การค้นหาเชื้อไวรัสใหม่ในค้างคาว เช่นที่จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกากำลังดำเนินการ เป็นการวิจัยเพื่อเตรียมความพร้อม เนื่องจากไวรัสโคโรนามีหลายสายพันธุ์และมีการกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ เมื่อค้นพบไวรัสแล้วจะมีการศึกษาคุณสมบัติต่างๆ เพื่อต่อยอดไปถึงการพัฒนาวัคซีน ซึ่งความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสจากค้างคาวมาสู่คนโดยตรงยังอยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง เนื่องจากโดยปกติเชื้อที่พบในค้างคาวมีปริมาณน้อย โอกาสที่คนจะไปสัมผัสกับค้างคาวก็ต่ำมาก และการติดต่อสู่คนมักต้องมีสัตว์ตัวกลางอื่น
ที่มาข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข / TNN World
ที่มารูปภาพ : Canva