TNN หมอมานพ เผยผลศึกษาเทียบการลดประสิทธิภาพ "ไฟเซอร์-แอสตร้าฯ"

TNN

เกาะติด COVID-19

หมอมานพ เผยผลศึกษาเทียบการลดประสิทธิภาพ "ไฟเซอร์-แอสตร้าฯ"

หมอมานพ เผยผลศึกษาเทียบการลดประสิทธิภาพ ไฟเซอร์-แอสตร้าฯ

"หมอมานพ" เผยผลการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีน "ไฟเซอร์" ลดลงเร็วกว่า "แอสตร้าเซนเนก้า" จนวัคซีนทั้งสองชนิดเริ่มมีค่าเท่าๆกันที่ 3 เดือนหลังฉีด

วันนี้( 20 ส.ค.64) ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับวัคซีนโควิด Pfizer และ AstraZeneca 

โดยระบุว่า "การศึกษานี้น่าสนใจ พบว่าอัตราลดลงของประสิทธิภาพวัคซีน Pfizer เร็วกว่า AstraZeneca ข้อมูลจากการติดตาม "โอกาสที่จะตรวจพบการติดเชื้อ COVID จำนวนมาก (high viral load, Ct<30)" จากทีมนักวิจัย Oxford ร่วมกับ Office of National Statistics เปรียบเทียบระหว่างกลุ่มประชากรที่ได้ AstraZeneca vaccine เทียบกับ Pfizer vaccine พบว่าแม้ประสิทธิผลของวัคซีน Pfizer จะสูงกว่า AstraZeneca ในช่วงแรก แต่เมื่อติดตามไปเรื่อย ๆพบว่าอัตราการลดลง (attrition rate) ของวัคซีน Pfizer เร็วกว่า AstraZeneca จนวัคซีนทั้งสองชนิดเริ่มมีค่าเท่าๆกันที่ 3 เดือนหลังฉีด และถ้าแนวโน้มยังคงเป็นแบบเดิม ประสิทธิผลของ AstraZeneca จะเหนือกว่าหลังเดือนที่ 4 เป็นต้นไป

ข้อมูลที่สำคัญอีกอันหนึ่งใน preprint นี้คือ ผู้ที่เคยติด COVID แล้วได้วัคซีน (ไม่ว่าจะเป็น Pfizer หรือ AstraZeneca) ชนะเลิศ! มีระดับประสิทธิผลที่คงอยู่ได้ดีสุด คือยืนระยะเกิน 90% ได้ 

อย่างไรก็ดี ข้อมูลการคาดการณ์ที่ 4 เดือนนี้เป็น extrapolation ของการติดตาม ไม่ใช่ข้อมูลจริง และการศึกษานี้ดูเฉพาะรายที่ติดเชื้อ "เยอะ" เท่านั้น ไม่ได้ดูที่ประสิทธิผลรวมทั้งหมด และไม่ได้แปลว่าผู้ที่ติดเชื้อจะป่วยหรือมีอาการ ดังนั้นคงจะบอกว่าวัคซีน Pfizer กลับด้อยกว่า หรือ AstraZeneca ดีกว่าไม่ได้จนกว่าจะเห็นข้อมูลมากกว่านี้ แต่อย่างน้อยสิ่งที่ยืนยันได้คือ ประสิทธิผลของวัคซีน Pfizer ลดลงเร็วกว่าจริง สอดคล้องกับข้อมูลก่อนหน้านี้

น่าสนใจว่าถ้าเอา Moderna มาเทียบด้วยจะเป็นอย่างไร เพราะมีข้อมูลก่อนหน้านี้ยืนยันว่าประสิทธิผลของ Moderna ยืนระยะดีกว่า คือที่ 6 เดือนก็ยังคงที่ในระดับสูง"

หมอมานพ เผยผลศึกษาเทียบการลดประสิทธิภาพ ไฟเซอร์-แอสตร้าฯ


ข่าวแนะนำ