อัลเบิร์ต บัวร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไฟเซอร์ (Pfizer) ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์ชั้นนำของโลก ระบุว่า บริษัทอาจตัดสินใจย้ายฐานการผลิตในต่างประเทศกลับเข้ามายังสหรัฐฯ หากมีความจำเป็น หลังจากรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ใช้มาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากหลายประเทศ
บัวร์ลา กล่าวในเวทีเสวนาด้านสุขภาพประจำปี TD Cowen ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ว่า "เรามีศักยภาพด้านการผลิตทุกอย่างที่นี่ และโรงงานผลิตต่างๆ ก็มีกำลังผลิตที่มากพอ หากมีอะไรเกิดขึ้น เราจะพยายามบรรเทาผลกระทบด้วยการย้ายฐานผลิตจากภายนอกเข้ามายังโรงงานที่นี่"
สรุปข่าว
ทั้งนี้ เดือนที่แล้ว ทรัมป์ ได้มอบหมายให้ทีมงานด้านเศรษฐกิจไปจัดทำแผนรีดภาษีตอบโต้ประเทศต่างๆ ที่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอเมริกา โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้สั่งรีดภาษีสินค้าจากจีนทุกชนิดในอัตรา 10% ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. และเตรียมที่จะบังคับใช้มาตรการรีดภาษีสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% สัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการรีดภาษีอุตสาหกรรมยา แต่เขาก็ยอมรับถึงความจำเป็นที่จะต้องให้เวลาแก่ผู้ผลิตยาทั้งหลายในการปรับตัวขยายฐานการผลิตในสหรัฐฯเพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษทางภาษีที่อาจจะมีขึ้นในอนาคต
บัวร์ลา ยอมรับว่าสถานการณ์มีแนวโน้มสุ่มเสี่ยงพอสมควรสำหรับบริษัทผู้ผลิตยา เนื่องจากตัวยาหลายชนิดทั้งยาสามัญและยานวัตกรรมใหม่ยังคงถูกผลิตภายนอกสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ซีอีโอไฟเซอร์เชื่อว่าบริษัทของเขาจะไปรอดในทุกสถานการณ์ พร้อมระบุว่าปัจจุบันไฟเซอร์มีโรงงานผลิตเวชภัณฑ์ 13 แห่งในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงโรงงานระดับเมกะไซต์หลายแห่งที่ใช้ในการผลิตยาฉีดปลอดเชื้อและแอนติบอดี

Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)